อีกหนึ่งสถานที่ที่เหล่าฮิปสเตอร์ไม่ควรพลาด! ปักหมุดรีบมาเดินเที่ยวกันกับ ART BOX BANGKOK แหล่งรวบรวมความชิคของวัยรุ่น เราจะตื่นตากับอาหารสุดครีเอท ข้าวของแฮนเมด ช็อปปิ้งเสื้อผ้าแนวๆ และสัมผัสบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยสไตล์
สำหรับ ART BOX BANGKOK ที่เราจะพูดถึงครั้งนี้เป็นเรื่องราวของต้นเดือนพฤศจิกายน เราจะทุกคนไปสัมผัสกับ ART BOX รวบรวมทุกพื้นที่ทุกตารางเมตรไว้ให้ได้สัมผัสกันอย่างเต็มอิ่มชนิดที่ว่าเหมือนมาเดินงานเอง!
ART BOX ครั้งนี้จัดขึ้นบริเวณ MRT กำแพงเพชร ประตู 1 เปิดตั้งแต่เวลา 15.00-23.00 น. เดินเลี้ยวขวามือเราจะได้พบกับซิกเนเจอร์อย่างแรกของที่นี่นั่นก็คือ การถ่ายรูปกับตู้คอนเทนเนอร์ ด้วยไฟที่ประดับประดาทั่วสถานที่ตัดกับตู้คอนเทนเนอร์สีขาวและเท็กซ์สีดำทำให้ใครที่ก่อนจะผ่านเข้าไปก็ต้องลั่นชัตเตอร์ซักหนึ่งดอก
เมื่อเดินเข้าไปข้างในสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือถ้าใครไม่เอากล้องมานี่คือพลาดมาก! ART BOX จะแบ่งออกเป็นโซน ซึ่งก่อนจะถึงโซนแรกเราจะพบกันร้านอาหารที่ถ้าใครหิวมากก็จอดป้ายนี้ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจัดหนักตลอดข้างทางซ้ายขวาซึ่งไม่ได้ยาวเท่าไหร่
เราจะโดนบังคับเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่โซนแรกนั่นคือ โซนเสื้อผ้าและแอสเซสเซอรี่ โทนโดยรวมในช่วงนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบแนวมินิมอล พูดง่ายๆก็คือ เสื้อผ้าสีพื้นโทนสุภาพบวกกับการครีเอธคำหรือภาพเก๋ๆ ชิคๆ ชูลๆความหมายดีๆ
เชื่อว่าหลายคนที่มางานนี้ต้องพกกล้องกันมาบ้าง ร้านที่เจอได้ในโซนนี้เราอยากแนะนำร้าน “Leewils Leather” ร้านขายเครื่องหนังที่สามารถปั๊มชื่อลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นสายคล้องคอกล้อง เข็มขัด ที่ใส่พาสปอร์ต พวกกุญแจ ฯลฯ ร้านนี้มีหมด ซึ่งหนังของเขาเนี่ยพ่อค้าว่าโดนเหงื่อแล้วไม่มีกลิ่นแน่นอน เพราะพวกเขาคัดแล้วคัดอีก
สิ่งที่ทางร้านภาคภูมิใจนำเสนอแบบสุดๆคือเครื่องปั๊มที่มีชื่อว่า ”ปิ๊ดปี๋” เป็นเครื่องปั๊มขนาดเล็กที่สามารถปั๊มตัวอักษรลงไปได้โดยไม่ต้องตอก ด้วยแพ็คเก็จจิ้งสไตล์มินิมอลแบบสุดๆและลูกค้าต่างจังหวัดที่แห่มาอุดหนุน พูดได้คำเดียวว่า มันดีย์อะ!
ถ้ายังลังเลอยู่ก็สามารถเข้าส่องเฟสบุ๊คของทางร้านได้ที่ : Leewils Leather แต่ต้องขอบอกว่าถ้ามาที่ร้านจะมีสินค้าเลือกมากกว่าในเพจ!
เดินวนไปเรื่อยๆก็จะเจออีกหนึ่งร้านเป็นร้านขายเคสโทรศัพท์เพ้นท์เอง ร้านนี้ถือเป็นร้านที่พุ่งเข้าไปจอดนิ่งอยู่หน้าร้านนานมาก คือร้าน “Natthayabrand” โดยคอลเล็กชั่นที่นำมาขายใน ART BOX สัปดาห์นี้เป็น Theme : Flower เราไม่ต้องกังวลนะว่ามันจะมีรุ่นของเราหรือเปล่า ขอบอกกว่าสั่งได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อร้านนี้มีเขามีหมด!
ใครที่ชอบเสพอาร์ตไปด้อมๆมองๆที่ร้านนี้ได้ อยากได้เคสสีขาว สีดำ ทางร้านมีให้เลือก เห็นทางร้านกระซิบมาว่าคอลเล็กชั่นหน้าจะเป็นรูปสัตว์ แต่เค้าก็จะไม่ได้บอกมาชัดเจนว่าเป็นเอาตัวอะไรไปตามกกันได้ที่ IG : Natthayabrand
อีกร้านนึงที่แค่เดินผ่านก็โคตรสะดุดตา นั่นคือร้าน “Enlight” เป็นร้านขายหลอดไฟ LED พัดขดในโหลแก้วรูปลักษณ์ต่างๆ ไม่ได้มีแต่แบบทรงกลมๆมนๆใหญ่ๆเท่านั้น ยังมีเป็นรูปพีระมิดสามเหลี่ยมที่สวยจนตัดสินใจเลือกลำบากไปอี๊ก! ส่วนข้างในโหลจะเป็นสายไฟนิ่งๆหรือประดับประดาอะไรด้านในก็มีให้เลือก
สำหรับชาวฮิปสเตอร์แนะนำให้ซื้อไปไว้หัวเตียงหรือซื้อไปฝากแฟนนี่ก็ชิคใช่เล่นนะ ลืมบอกไปว่าเจ้าโหลไฟตัวนี้ไร้สาย ใช้ถ่านค่า!! ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องหาปลั๊กจิ้มให้ยุ่งยาก เข้าไปดูในไอจีสั่งพรีออเดอร์ก็ได้นะ IG : Enlightbkk
ถ้าใครที่กำลังอินอยู่กับสวนขวด (Terrarium) ขอแนะนำร้าน “Mini Green Terrarium” คือมีให้เลือกเยอะมาก!! และใครที่ชอบโตโตโร่อยากให้มันย่อขนาดไปอยู่ในสวนขนาดร้านนี้ก็มีนะ หรือขา The Lord of the rings บ้านฮอบบิทก็มีแหละ คือน่ารักมว๊าก
อยากได้เทอราเรียมรูปแบบไหนร้านนี้เขามีหมด หรือใครที่มีอยู่แล้วและอยากได้ตุ๊กตาจิ๋วมาประดับตกแต่ง ร้านนี้ก็มีเยอะแยะหลายไซส์ แต่ละตัวคิวท์ฝุดๆ หรือถ้าอยากแอดวานซ์กว่านั้น ใครที่กำลังหาอุปกรณ์ไปทำเอง ร้านนี้ก็มีอี๊ก! ลองไปตำกันได้ คือมันสวยจริงๆแกร!! ไปส่องเฟสบุ๊คก่อนก็ได้ที่ FB : Mini Green Terrariu
อีกร้านหนึ่งที่เข้ากับช่วงไว้อาลัยที่สุดชื่อร้านว่า “เวิ่นเว้อ” เป็นร้านที่สะดุดตาแล้วต้องหยุดมองของในร้าน ใครที่ต้องการเข็มกลัดโบว์รับรองว่ามาร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน! เพราะมีดีไซด์ให้เลือกเยอะม๊าก! แล้วแต่ละแบบก็สวยๆทั้งนั้น
ของที่สะดุดตาชั้นต่อมาในร้าน คือ เคสโทรศัพท์สีดำที่ออกแบบลวดลายสีเงินเป็นรูปหมายเลข 9 ถัดลงมาจากเคสก็จะเห็นเป็นหมวกสีขาวและสีเทาพร้อมสัญลักษณ์หมายเลข 9 เช่นกัน
คุณผู้ชายก็อย่าน้อยใจทางร้านมีเน็คไทสีดำพร้อมลวดลายด้านล่างนิดหน่อยพร้อมจี้หมายเลข 9 ให้ได้เอาไปใส่ในช่วงนี้กันด้วย พอแอบส่องไอจีร้านมาเลยรู้ว่าร้านนี้ดารานิยมกันมาก ขวัญอุษา ก็ซื้อไปนะ แพนเค้กก็ไม่พลาด ดิวอรินี่ขาประจำ โพสต์แท็กกันรัวๆ ลองเข้าไปดูที่ IG : vernverrr
โซนที่เราโฟกัสและให้ความสำคัญเป็นพิเศษโซนต่อมาคือ โซนอาหาร! คือจะบอกว่าถ้าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไร ทาง ART BOX เขามี MC เดินถือไมค์แนะนำแต่ละร้านนะ เรียกได้ว่าทุกร้านจะนำเสนอความพิเศษออกมาให้ได้ฟังกันระหว่างเดินเลือกกับแบบจุใจ
มาที่ร้านแรกที่เราอยากแนะนำเป็นร้านที่คนเยอะมาก! ส่วนหนึ่งอาจเพราะแม่ค้ากับเชฟหล่อทะลุแมท นั่นคือร้าน ”KURO DON” เป็นร้านข้าวหน้าญี่ปุ่นที่มีเมนูให้เลือกมากมายในราคาไม่เกิน 100 บาท!!
แบ่งออกเป็น 4 ซอลคือ ซอสเทอรฺยากิ : ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ (79.-),ข้าวหน้าหมูเทอริยากิ (89.-),ข้าวหน้าเนื้อ (99.-), | ซอสต้มยำ : ข้าวหน้าไก่ราดซอสต้มยำ (79.-) | น้ำยำไทย : ข้าวหน้าไก่ยำไทย (79.-),ข้าวหน้าหมูยำไทย (89.-) | ซอสโอโคโนมิยากิ : ข้าวหน้าไก่ + โอโคโนมิยากิ (89.-), ข้าวหน้าหมู + โอโคโนมิยากิ (99.-)
ถูกขนาดนี้เราขอจัดมามาซัก 2 เมนู นั่นคือ ข้าวหน้าไก่ราดซอสต้มยำและก็ข้าวหน้าเนื้อ ซึ่งรสชาติระหว่างสองเมนูนี้ขอเทใจไปให้ ไก่ราดซอสต้มยำ!! คืออร่อยม๊าก! กลมกล่อมสุดๆ ไก่นุ่มๆผสมกับน้ำซอสต้มยำเข้มข้นที่ลงตัวสุดๆ อยากให้ไปโดนกัน
แต่ข้าวหน้าเนื้อก็ไม่ได้ขี้เหร่ เนื้อบางนุ่ม หวาน เหมือนละลายในปาก คนชอบกินเนื้อก็ไม่ผิดหวัง แม่ค้ากระซิบบอกว่าอีกว่า ซอสยำไทยที่นี้ก็ขายดีไม่แพ้ต้มยำ ถ้าชอบรสชาติเผ็ดของเครื่องสมุนไพร ก็อาจจะติดใจเมนูนี้ เข้าไปดูเมนูกันก่อนที่ FB : KURO DON
จบของคาวไปแล้วเรามาต่อด้วยสแน็คกันบ้าง แนะนำเลยกับร้านเลย “Doni Nacho” ร้านขายแป้งข้าวโพดกรอบราดชีส อาหารสองสัญชาติสไตล์อเมริกันแม็กซิโก ความพิเศษของนาโช่นอกจากแป้งข้าวโพดที่หอมหวานแล้ว เชดด้าชีสที่ราดลงบนตัวแป้งยังส่งตรงจากอเมริกา เค็มๆหวานๆเข้ากันดี๊ดี แต่ทีเด็ดอีกอย่างที่หลายคนเดินผ่านเป็นต้องหยุดซื้อคือความยืดเห็นความแรกแล้วน้ำลายแตกต้องรีบวิ่งเข้าไปจัดของมอลซาเรลล่า
นาโช่มีให้เลือกหลายเมนูทั้ง Cheesy Nachos ที่เน้นชีสให้ฟินกันจนถึงคำสุดท้าย / Signature Nachos ที่มีส่วนผสมของเบคอน ชีส และ ชัลล่า ซึ่งเพิ่มความกลมกล่อมได้เป็นอย่างดี / Bacon&Cheese Nachos ที่จัดเต็มกับเบค่อน ซึ่งตอนนี้ก็กำลังลด 20% เหลือ 99 บาท!!
เราเลยขอจัดเมนูแนะนำของร้าน คือ “ซิกเนเจอร์นาโช่” ที่ขนท็อปปิ้งจัดหนักจัดเต็มมาไว้ในเมนูนี้ แต่ถ้าใครจะไม่จุใจก็สามารถเลือกเพิ่มท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ (นาโช่แนะนำให้กินตอนอุ่นๆ) แอบเข้าไปส่องก่อนได้ที่ IG : Doninacho
ก็ยังเอาใจสาวกชีสกันต่อไป กับชีสหนึบๆยืดๆ ที่มีชื่อว่า ชีสโทส เมนูที่ต้องไปโดนกันที่ร้าน “Saychiizu” แบรนด์ลูกของ SayCheese ชีสโทสกรอบๆยืดๆหอมๆ ราคาเพียง 69-89 บาท!! อีกหนึ่งสิ่งที่ใครหลายคนต้องมาชิมเมื่อมา Art Box ขอแนะนำให้กินต้องอุ่นๆชีสจะเยิ้มยืดยาวมากกว่าตอนค่อนข้างเย็นนะ
ขนมปังชีสโทสร้านนี้เป็นสูตรพิเศษบินตรงมาจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มละมุน กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมกับแพ็คเก็จหมีน้อยน่ารัก มีหลากหลายรสชาติทั้ง Original Cheese / Honey Cheese / Nutella Cheese / Chocolate Cheese / Rainbow Cheese เราขอประเดิมด้วยรส Original ที่ขายที่สุด อดใจรอรสอื่นๆในวีคต่อๆไปหน่อยนะจ้ะ ได้ข่าวว่าทางไอจีมีประกวดภาพด้วยนะ ลองเข้าไปดูกัน IG : saychiizutoast
ร้านต่อไปที่หลายคนต้องหยุดชิมคือ “ขนมพ่นควัน Dragon Candy” มันเป็นขนมที่มีไนโตรเจนเหลวเป็นกิมมิค ซึ่งที่คนขายใจดียินดีให้ลูกค้าเติมควันได้ตลอดเวลา ธีมของเขาก็คือ “ขนมพันธุ์ใหม่ เปลี่ยนคนให้เป็นมังกร”
สิ่งที่ชอบที่สุดในร้านนี้ก็คงเป็นไนโตเจนเหลวที่เราไม่สามารถเก็บมันไว้ในปากได้นาน ทำให้คิดจะอมกี่ครั้งมันก็ต้องพุ่งออกมา คือตื่นเต้นมาก ส่วนรสชาติจะได้ความเย็นของไนโตรเจนเหลวและความกรอบของขนมข้าวโพด ซึ่งต้องรีบกินรีบถ่ายถ้าให้ยืนอยู่หน้าร้านนี้จนกว่าขนมจะหมด ก็โอนะ
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มค็อกเทลที่มีทั้งแอลกอฮอล์และโนแอลกอฮอล์ กับร้าน “Highcocktail” ธีมของร้านก็คือ “เก็บอวกาศไว้ในขวดแก้ว” เป็นค็อกเทลที่มีส่วนผสมของทองคำเปลวสูตรพิเศษที่ทานได้ ซึ่งเพียงแค่เขย่าจักรวาลน้อยๆก็จะอยู่ในมือคุณ
จุดเด่นของร้านคือขวดคอกเทลหน้าร้านทางร้านให้เขย่า – เปิดแฟลช – ถ่าย เพื่อได้เห็นกลิตเตอร์ที่อยู่ในน้ำ ราคาต่อขวดเพียง 150 บาท ซึ่งตอนนี้ก็มีโปรโมชั่น 1 แถม 1 ด้วย!!
เขามีหลายรสชาติให้เลือกทั้ง Miracle Beer : เป็นเบียร์ + ว็อดก้าผสมเลม่อนโซดา / Nubula : เหล้าส้ม ทับทิม มะนาว / Eden : เหล้าลิ้นจี่ / Last Ocean : เหล้าบลูฮาวาย / The Earth : เหล้าเมล่อน / Mercury Lab : เหล้าผลไม้และน้ำผลไม้ และตัวท็อปของร้านนี้ คือ Super High : เหล้ามินท์ เหล้าเลม่อน เหล้ารัม
เราขอจัดมาชิม 2 ขวดเลือกเป็นตัวท็อปมาเลย คือแบบอร่อยอะ! รสชาติเข้ากันได้ดี Super High มีความเปรี้ยว ส่วน Eden ก็จะออกหวานรวมๆแล้วคือดี ส่วนตัวแนะนำลองตัวท็อปนี่เด็ดจริง!
ART BOX ครีเอทสถานที่นั่งทานอาหารไว้มากกว่าหนึ่งที่เพื่อรองรับจำนวนคนที่จะหลั่งไหลเข้ามา โซนแรกจะเป็นไม้กระดานต่อกันเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าจัดอยู่ใจกลางของงาน พร้อมด้วยเบาะนั่งยาวนุ่มๆ เรียงต่อกันเป็นระเบียบ
อีกส่วนหนึ่งจะเป็นโดมเรียงต่อกันแต่แยกสัดส่วนไว้อย่างชัดเจนประดับประดาด้วยไฟรอบพื้นที่ สำหรับผู้ที่ชอบนั่งเก้าอี้กินดื่มแบบจริงจัง
ถัดไปชิดเวทีจะมีโต๊ะไม้ลักษณะเหมือนแบบแรกวางเรียงยาวอยู่หน้าเวที พร้อมวงดนตรีบัลเลงเพลงระหว่างทานอาหารสามารถนั่งชิวตามอัธยาศัย
นอกจากร้านอาหารชั้นเดียวแล้ว ART BOX ยังมีโซนอาหารที่มีชั้นสองเพื่อให้ได้ไปเสพบรรยากาศโดยรวมของที่นี่อีกด้วย อีกเรื่องที่จะขอแนะนำคือ ควรใส่เสื้อผ้าระบายอากาศมานะ มันจะค่อยข้างร้อนแต่ไม่อบอ้าวนะจ้ะ
ย้ำอีกครั้งทุกวัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ของสัปดาห์ เรามีนัดกันที่ ART BOX ตั้งแต่ 15.00-23.00 น. ความพิเศษในแต่ละคอนเซ็ปต์รอให้มาสัมผัสด้วยตัวเอง พูดได้คำเดียวว่าห้ามพลาด!!
ถ้าต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับงานเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้เลยที่ https://www.facebook.com/Artboxthailand หรือดูรายละเอียดที่ ZipEvent http://www.zipeventapp.com/e/ARTBOX-at-Chatuchak
เพื่อนๆ สามารถอัพเดทอีเวนท์สุดเจ๋งอื่นๆ ได้ผ่าน www.facebook.com/zipevent หรือ www.zipeventapp.com หรือสามารถโหลด Application ‘ZipEvent’ ได้ทั้งบน ios (http://apple.co/1QDXzux) และ android (http://bit.ly/1eXoTIu) นะครับ
ZipEvent Team
