Trending Now

“เราค้นพบเรื่องง่ายๆ เล็กๆ บางอย่างที่เป็นกุญแจไขไปสู่หนังสือเล่มนี้”

– ทีมงานสานต่อที่พ่อทำ

ตลอดระยะเวลา 1 ปี (ตั้งแต่กลางปี 2559) ที่โปรเจ็กต์ “สานต่อที่พ่อทำ” ได้เริ่มขึ้นกับจุดประสงค์ที่ตั้งใจจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อที่จะเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปีของพระองค์ท่าน แต่ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นมา ทางทีมงานก็ยังคงสานต่อภารกิจที่ตั้งไว้ในการที่จะใช้เวลา 1 ปี เล่าเรื่องการทำงานตลอด 70 ปีของพระองค์ท่านให้สังคมได้รับรู้ โดยโปรเจ็กต์ต่างๆ ได้เกิดขึ้นมากมาย ทั้งหนังโฆษณา, นิทานเด็ก, Facebook เพจ สานต่อที่พ่อทำ และโปรเจ็กต์สุดท้ายกับ หนังสือ ‘The Visionary ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็นอนาคต’

   ZipEvent ได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงานสานต่อที่พ่อทำเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และตั้งแต่วันแรกของการเริ่มโปรเจ็กต์จนมาถึงโค้งสุดท้ายที่หนังสือเล่มนี้ได้ไปถึงมือคนไทยหลายๆ คนแล้ว ทางทีมงานมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง

หนังสือที่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจ 

“เรามีแรงบันดาลใจที่ว่าเหมือนเด็กยุคใหม่ไม่รู้จักพระองค์ท่าน อาจจะเป็นเพราะยุคสมัยที่มันเปลี่ยนไป gap มันก็มากขึ้น เด็กๆ ส่วนใหญ่จะโตมากับโซเชียลมีเดีย และช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่พระองค์ท่านไม่ได้เสด็จออกทรงงานเหมือนแต่ก่อนแล้ว จึงเป็นเหตุที่ว่าเด็กยุคใหม่จะไม่ค่อยรู้จักพระองค์ท่านจริงๆ เราจึงพยายามหาทางที่จะเอาเรื่องราวการทำงานของพระองค์มาย่อยในรูปแบบสื่อที่คนรุ่นใหม่จะสนใจ”

“เรารู้สึกว่าเครื่องมือที่จะนำหลักการของท่านมาใช้ได้ง่ายๆ แล้วรู้สึกว่าสื่อที่มันเหมาะ ก็คือหนังสือ ‘พ็อกเก็ต บุ๊ค’ เพราะเราจะเห็นได้ว่า เด็กรุ่นใหม่อ่านหนังสือ How-to และหนังสือแนว Self-help ตลอดเวลา แต่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กรุ่นใหม่หรือยุคที่ทำงานแล้วก็ยังสนใจหนังสือแนวนี้อยู่ และด้วยความที่เรามีข้อมูลเยอะมาก เราเลยรู้สึกว่า นี่แหละหนังสือของเรา มันคือหนังสือที่ถอดวิธีการทำงานและแนวคิดของพระองค์ท่านมา ซึ่งเรื่องราวที่นำมาก็เป็นเรื่องราวที่มีหลักฐานอ้างอิงเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง”

​นอกจากนั้นข้อมูลนับร้อยนับพันที่กระจัดกระจายด้วยเวลาอันยาวนานที่ในหลวงทรงงานมา อีกทั้งพระองค์ท่านก็ทำงานหลายด้าน ทำให้ยังไม่มีการจัดการให้ข้อมูลถูกนำเสนอออกมาให้เข้าใจง่ายสักที ทีมสานต่อที่พ่อทำมองเห็นถึงประเด็นนี้จึงเกิดไอเดียในการแบ่งข้อมูลเป็นหมวดหมู่ออกมาเป็น 9 บทที่แบ่งไว้ในหนังสือ

“ในทุกหมวดที่เราจัดไป คำว่า Visionary มันเลยชัดขึ้นมาเรื่อยๆ ว่า สิ่งที่พระองค์ท่านทำเมื่อ 50 60 ปีที่แล้ว เหมือนพระองค์ท่านเห็นไว้แล้วว่าอีกหลาย 10 ปีต่อมามันจะเป็นแบบไหน เราเลยรู้สึกว่านี่คือคำว่า Visionary นี่คือการมองเห็นอนาคต”

ตั้งแต่วันแรกที่หนังสือเล่มนี้ถูกโปรโมทและเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย คนไทยหลายๆ คนก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมากไม่ใช่เพียงเพราะตามกระแสแต่เป็นเพราะคนเหล่านั้นตั้งใจอยากจะอ่านทุกตัวอักษรในหนังสือจริงๆ ทางทีมงานได้เอ่ยว่าผลการตอบรับดีกว่าที่คิดไว้มาก

“มันดีได้เพราะทุกคนเต็มใจช่วยเหลือจริงๆ ทุกคนที่มารับรู้ก็เชื่อว่าการทำงานของพระองค์ท่านเป็นสิ่งที่น่าทำตาม ทุกคนเลยเต็มใจที่จะช่วยในการโปรโมทอย่างเต็มที่และก็ช่วยในทุกอย่างที่จะช่วยได้ เราว่ากุญแจคือทุกคนเชื่อและศรัทธาในวิธีการทำงานของพระองค์ท่าน เขาเลยรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่น่าสนใจและน่าจะเผยแพร่ต่อ”

เมื่อวันที่ 13-17 กันยายน ที่ผ่านมา ทางทีมงานสานต่อที่พ่อทำได้จัดงานรับหนังสือ The Visionary ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็นอนาคต ให้กับคนที่ได้ลงทะเบียนจองหนังสือไว้ ซึ่งบรรยากาศที่เราได้เห็นคือความมุ่งมั่นตั้งใจของผู้คนที่เดินทางมารับหนังสือ รอยยิ้มอิ่มเอมใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของหลายๆ คนเมื่อได้รับและเริ่มเปิดอ่าน

ทาง ZipEvent ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณพัด (หนึ่งในกลุ่มคนที่เดินทางมารับหนังสือ) เธอได้บรรยายความรู้สึกถึงหนังสือเล่มนี้ให้เราฟังด้วยความตื้นตันใจ “เอาตรงๆ ตอนแรกไม่ทราบว่าหนังสือเล่มนี้มีที่มาที่เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าอาจจะมีประวัติของในหลวงค่ะ แต่พอได้อ่านแล้วถามว่าซาบซึ้งไหม บอกได้เลยว่ามาก สิ่งที่ท่านได้ทำเพื่อประชาชนบอกเลยว่าไม่คิดว่าจะมีใครสามารถทำได้เท่าท่าน บางจังหวะอ่านไปก็รู้สึกน้ำตาซึมเลย..”

คุณพัดยังได้ฝากคำขอบคุณไปถึงทีมงานสานต่อที่พ่อทำอีกด้วย

“อยากขอบคุณทีมงานมากๆ ค่ะ ที่ทำให้มีหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา มันเป็นหนังสือที่ดีเล่มนึงสำหรับพี่เองเลยนะ รู้สึกว่าทีมงานทำเพื่อประชาชนจริงๆ เพราะว่ามีหลายช่องทางในการจัดส่งให้คนต่างจังหวัดด้วย เลยรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ให้แค่คนเฉพาะกลุ่ม มันทำให้คนเข้าถึงสื่อได้มากขึ้นแล้วก็กระจายความรู้ให้กับประชาชนทั่วไปได้ด้วย ส่วนหนึ่งก็เหมือนเราได้นำหลักการของในหลวงมาใช้ในการทำงาน เหมือนทีมงานก็เป็นส่วนช่วยให้เราได้เจริญรอยตามพระองค์ท่านด้วย อยากขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ”

นอกจากนั้นทางทีมงานยังมีโปรเจ็กต์หนังสือเสียงเพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถติดตาม The Visionary ได้อย่างแท้จริงอีกด้วย โดยทั้ง 9 บทของหนังสือจะถูกถ่ายทอดแบบคำต่อคำโดยศิลปินคนดังทั้ง 9 ท่าน (พร้อมให้ฟังแล้วที่ https://bit.ly/2wWjf6e)

“วันนึงที่เรานั่งอยู่บนแท็กซี่แล้วก็ได้ฟังรายการสารคดีทางวิทยุเล่าถึงว่าพระองค์ท่านเป็นคนแรกๆ ที่ใส่ใจช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ก็เลยรู้สึกว่าหนังสือเล่มนี้ควรจะทำเพื่อกลุ่มผู้พิการทางสายตาด้วย ส่วนทั้ง 9 คนที่เราชวนเขามาถ่ายทอดตัวหนังสือก็เป็นกลุ่มคนที่อ่านเพราะๆ อ่านเก่งๆ และทุกคนค่อนข้างคุ้นเคยกับเสียงพวกเขาเหล่านี้” ทีมสานต่อที่พ่อทำบอกกับเรา

จากวันแรกจนถึงวันสุดท้าย

“เพจสานต่อที่พ่อทำ เริ่มเปิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งพวกเราก็ได้สัญญาว่าเราจะใช้เวลา 1 ปีในการเล่าเรื่องการทำงานตลอด 70 ปีของพระองค์ท่าน ซึ่งเราก็ได้ทำหน้าที่ครบวาระช่วง 1 ปีที่เราเปิดเพจมา ที่เราสัญญาไว้มันก็สำเร็จลุล่วงแล้ว ที่เหลือมันก็คือการที่ทุกคนเอาสิ่งที่เรามาบอกเล่าให้ฟังไปปรับใช้ต่อ สุดท้ายก็ถึงเวลาที่ทุกคนต้องเงยหน้าขึ้นมาทำตามแนวคิดและทำตามสิ่งที่พระองค์ท่านได้เหลือไว้ให้เรา”

ทีมสานต่อที่พ่อทำได้ทิ้งท้ายเกี่ยวกับ The Visionary ให้เราฟังว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในเรื่องราวของหนังสือเล่มนี้มันมีข้อคิดที่แตกต่างกันไป แต่ในทุกเรื่องจะอยู่ในยูนิเวิร์สเดียวกันคือ ‘การทำเพื่อผู้อื่น’ และ ‘การทำเพื่อส่วนรวม’ ซึ่งสองสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ซึมซับมาได้มากที่สุดจากพระองค์ท่าน ทางทีมงานหวังว่าทุกคนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะเห็นภาพเดียวกันและพร้อมจะเดินตามรอยที่พระองค์ท่านได้มอบไว้ให้

Comments

comments

Author

You only live once