ตลอดเดือนมิถุนายนของทุกปี เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาของชาวสีรุ้งหรือชาว LGBTQIA+ (กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ) ซึ่งปีนี้ก็ยังคงมีมวลมหาประชนที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้กับคนกลุ่มนี้มากขึ้น รวมถึง Zipevent ด้วยนะ 🙂 เราเลยไม่รอช้าทีมคอหนังของเพจเรา มัดรวม หนัง LGBTQIA+ ควรค่าแก่การดู! มาฝากทุกคน ที่นอกจากจะสนุกครบรส เนื้อเรื่องดีแล้ว พอได้ดูก็ได้มุมมองอะไรกลับมาเยอะเลย งั้นไปดูพร้อมกันเลยว่าจะมีเรื่องไหนบ้าง ส่วนใครอยากเปลี่ยนแนวมาดูซีรีส์ (คลิกเลย) เรารวมมาให้แล้ว!
Pride Month เดือนแห่งสีรุ้ง ที่ไม่ใช่แค่เดือนมิถุนายน
ก่อนจะไปดูลิสต์หนังในวันนี้ Zipevent ขอเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนและสนับสนุนชุมชนชาว LGBTQIA+ ต่อไป ไม่ใช่แค่เดือนมิถุนายนแต่หมายถึงในทุกๆ เดือน เพราะเราเคารพในทุกๆ เพศ ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศไหน เราก็ควรได้รับอะไรที่เท่าเทียมและมีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น 🙂
Love, Simon (2018)
ประเภท: Romance-Drama / ความยาว: 1h 50m
ดูได้แล้วที่: Google Play
เริ่มกันที่เรื่องแรกกับ Love, Simon (2018) ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง Simon vs. the Homo Sapiens Agenda โดย Becky Albertalli เล่าชีวิตของไซมอน เด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปที่มีครอบครัวสมบูรณ์และเพื่อนไฮสคูล และเขามีความลับเพียงข้อเดียวคือ เขาไม่เคยบอกใครว่าเป็นเกย์ แต่ไซมอนมีเพื่อนที่ให้เขาได้ระบายความรู้สึกที่ต้องปิดบังตัวตนชื่อว่าบลู โดยที่ทั้งสองพูดคุยกันผ่านอีเมลทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวตนอีกฝ่าย และในภาพยนตร์จะชวนให้เราอยากรู้ว่าคือคนไหนนั่นเอง
หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณได้ข้อคิดจากประโยคที่ว่า คนเราควรมีสิทธิ์เลือกที่จะเปิดเผยตัวเองเมื่อพร้อม ที่ไม่ได้พยายามจะวาดฝันโลกอันสวยงามอยู่ตลอดเวลา แต่ตั้งใจจะเปิดพื้นที่รับความแตกต่างทางสังคมและวัฒนธรรมอีกด้วย
Call Me By Your Name (2017)
ประเภท: Romance-Drama / ความยาว: 2h 10m
ดูได้แล้วที่: Netflix และ Google Play
ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ สำหรับหนัง LGBTQIA+ เรื่องนี้น่าจะต้องถูกใจคอแฟนๆ หนังรัก สำหรับ Call Me By Your Name หนังรักโรแมนติก สุดซึ้ง ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังครองใจคนหลายๆ คนได้อยู่ ที่จะมาเล่าเรื่องราวความรักของสองหนุ่มต่างวัยที่เดินทางมาเจอกัน และมีความรักเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ของเด็กหนุ่มวัย 17 ปี อย่างเอลิโอ และชายหนุ่มวัย 24 ปีอย่างโอลิเวอร์ ที่มาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยงานวิจัยของพ่อเอลิโอนั่นเอง นอกจากนี้เพลงประกอบในเรื่องยังโด่งดังติดหูคนดู ใครชอบต้องติดตาม ตอนนี้สามารถดูได้ทาง Google Play ได้ด้วยนะจ๊ะ
Happiest Season (2020)
ประเภท: Drama / ความยาว: 1h 42m
ดูได้แล้วที่: Google Play และ Apple TV
Happiest Season (2020) หนังแนวรอมคอมที่ดูแล้วคุณจะต้องรู้สึก Feel Good! เรื่องนี้ที่ซิปอยากแนะนำเพราะได้ดารามากฝีมืออย่าง Kristen Stewart กับเรื่องราวของคู่รักเลสเบี้ยน ‘Abby’ และ ‘Harper’ ทื่วางแผนจะใช้ช่วงเวลาเทศกาลวันหยุดนี้ที่บ้านของ Harper โดย Abby วางแผนจะขอแต่งงานในวันคริสต์มาสแต่ปัญหาก็คือครอบครัวของ Harper ยังไม่รู้ว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน จึงทำให้ Abby ต้องปกปิดตัวตนและแสร้งทำเป็นเพื่อนสาวของเธอ แค่พล็อตก็น่ารักแล้ว ใครอยากหาหนังแนวนี้แต่ดูแล้วรู้สึกผ่อนคลายล่ะก็แนะนำเลย
Carol (2015)
ประเภท: Romance-Drama / ความยาว: 1h 58m
ดูได้แล้วที่: Google Play
ต่อมาสำหรับหนังที่ซิปอยากแนะนำคือ Carol (2015) ให้อะไรเรามากกว่าการพูดถึงประเด็นหญิงรักหญิง เพราะนอกจากบทที่ดัดแปลงมาจากนิยายคลาสสิคเรื่อง The Price of Salt ที่เขียนโดยแพทริเซีย ไฮสมิธ และหนังเรื่องนี้ได้เข้าชิงออสการ์อีกด้วย หนังเล่าถึงแครอล หญิงผู้เพียบพร้อมทั้งครอบครัว ฐานะ และหน้าตาในสังคมนิวยอร์กยุค 1950 กับเทเรซ พนักงานในห้างสรรพสินค้าอายุ 20 ปี ซึ่งความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งสังคมและนิสัยทำให้ทั้งคู่ดึงดูดและอยากรู้จักกันมากขึ้นจนเกิดเป็นความรักที่ลึกซึ้งขึ้น
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคงเพราะการสื่อถึงความรักและการออกนอกกรอบสังคม มากกว่าการเล่าถึงความผิดแผกในการรักร่วมเพศ ทำให้ Carol เรียกว่าเป็นหนังรักที่สวยงามเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
Moonlight (2016)
ประเภท: Romance-Drama / ความยาว: 1h 51m
ดูได้แล้วที่: Netflix
เรื่องต่อมาที่ควรค่าแก่การดูสุดๆ ซิปอยากชวนคุณมาดู Moonlight ภาพยนต์ที่ดัดแปลงมาจากบทละครเวที In Moonlight Black Boys Look Blue (Tarell Alvin McCraney) โดยได้แรงบันดาลใจจากชีวิตวัยเด็กของเขาเองและเล่าเรื่องของชายหนุ่มผิวดำชื่อว่า Chiron ใน 3 ช่วงอายุ ได้เป็นอย่างดี
เริ่มจากเด็กที่ได้รับความอบอุ่นจากมาเฟียค้ายาแทนความอ้างว้างจากแม่ที่ติดยา ช่วงวัยรุ่นที่พบตัวตนท่ามความความสัมพันธ์กับแม่ที่แย่ลง และเขาในวัยทำงานที่ย้อนกลับมาจากต่างเมืองเพื่อมาเจอความทรงจำเดิมๆ ที่ไม่เคยจางไปที่ว่า คนดำ เกย์ผิวดำ ยาเสพติด เรียกว่าเป็นหลากหลายบุคลิกภาพชายขอบที่ซ้อนทับกันอยู่อย่างน่าสนใจ ทำให้เราอยากชวนคุณดูเรื่องนี้สักครั้ง
Handsome Devil (2016)
ประเภท: Romance-Comedies / ความยาว: 1h 35m
ดูได้แล้วที่: Netflix
สำหรับ Handsome Dev il (2016) เป็นอีกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด หากนึกถึงประเด็นเรื่องการบูลลี่ การเหยียด การแบ่งพรรคพวก คือสิ่งที่เราจะได้เห็นบ่อยๆ ในหนังหรือซีรีส์ฝรั่งโดยบทมักที่มักจะมีฉากหลังเป็นไฮสคูล สะท้อนให้เห็นภาพของสังคมวัยรุ่นที่ต้องการ ‘การยอมรับ’ เพื่อให้ตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ดังนั้นหนังเรื่องนี้จะเล่าเรื่องผ่านความสัมพันธ์แบบ ‘เพื่อน’ ที่เข้าใจและสร้างพลังบวกให้กัน กลายเป็นหนังที่ดีต่อใจคนดูเองก็จะได้รับพลังบวกนั้นไปด้วย
ดิว ไปด้วยกันนะ (2019)
ประเภท: Romance / ความยาว: 2h 2m
ดูได้แล้วที่: Netflix
ปิดท้ายด้วยหนังไทยบ้านเราที่เรียกว่าน่าสนใจไม่น้อยกับ ดิว ไปด้วยกันนะ (DEW) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของผู้กำกับ มะเดี่ยว–ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล อีกทั้งยังเป็นหนังทุนสร้างจากเกาหลีใต้จากค่าย CJ Entertainment และเป็นบทหนังที่ดัดแปลงมาจาก Bungee Jumping of Their Own หนังรักชื่อดังของเกาหลีอีกด้วย เรื่องนี้จะมาเล่าเรื่องราวของภพและดิว เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายสองคน ที่รักกันในยุคที่สังคมมองว่าการรักเพศเดียวกันคือเรื่องผิดแผก ใครที่ยังไม่เคยดูก็ลองไปดูกันน้า 🙂
หากใครดูครบจบลิสต์ หนัง LGBTQIA+ ที่ซิปมาแชร์ให้แล้ว อยากดูหนังแนวรักต่อ เปิดลิสต์ หนังดี ในดวงใจ! เทศกาลไหนก็ดูได้ หยุดยาวนี้พี่ขอนอนอยู่บ้าน คลิกเลย!
Follow us for more interesting content!
ฝากถึงพี่น้อง แฟนๆ ที่เคารพรักทุกท่าน ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย จิ้มๆ
- Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
- Instagram: @Zipevent
- Website: www.zipeventapp.com
- Twitter: @Zipevent
- Facebook: @Zipevent
- LINE TODAY: Zipevent
- YouTube: Zipevent
- Blockdit: @Zipevent