#PrideMonth2024 ใกล้เข้าสู่กับเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความเท่าเทียมในความหลากหลายทางเพศทั้งทีแบบนี้ แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะเตรียมตัวต้อนรับ Pride Month กันอย่างอบอุ่น วันนี้เราเลยแวะมาชวนทุกคนไปดู 12 หนัง LGBTQ+ ที่บอกกล่าวถึงเรื่องราวความหลากหลายทางเพศกัน ไม่รอช้าไปดูกันดีกว่าว่าจะมีเรื่องไหนบ้างที่เรานำมาป้ายยา!
│
☆ Moonlight (2016) ☆
ความยาว 1h 51m
I’m Me.
เรื่องราวชีวิตของ ชีรอน เด็กหนุ่มผิวดำที่ถูกแม่ปล่อยละเลย ต้องเติบโตมาในสังคมที่เต็มไปด้วยอันธพาลและยาเสพติด ทั้งยังถูกเพื่อนรังแกอยู่บ่อยครั้ง และนั่นทำให้เขาต้องใช้ความพยาพยามอย่างมากในการเติบโต มิหนำซ้ำเขายังมีความรู้สึกที่เกินเลยกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่
หนังเรื่องนี้เหมือนการสัมผัสเรื่องราวชีวิตการเติบโตของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ได้นำเสนอประเด็นอย่างเด่นชัดจนทำให้เรารู้สึกหนักอึ้ง แต่กลับแทรกซึมประเด็นเรื่องผิวสีและความหลากหลายทางเพศลงไปได้อย่างลงตัว ทำให้เรารู้สึกอินตามได้อย่างง่ายดาย
│
☆ Love, Simon (2018) ☆
ความยาว 1h 51m
ดูได้ทาง Netflix
It Doesn’t Seem Fair That Only Gay People Have To Come Out. Why Is Straight The Default?
เรื่องราวของ ไซม่อน เด็กหนุ่มไฮสคูลหน้าตาดีที่มีชีวิตแสนเรียบง่าย มีครอบครัวและเพื่อนที่น่ารัก แต่ชีวิตที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายของเขา กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อไซม่อนเก็บความลับบางอย่างเอาไว้ ความลับที่เขาไม่กล้าเปิดเผยออกไป ไม่ว่าจะกับครอบครัวหรือเพื่อน นั่นก็คือความลับที่ว่าเขานั้นเป็นเกย์ และเรื่องราวแสนวุ่นวายก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อไซม่อนพยายามค้นหาตัวตนของคนที่เขาแอบชอบในโลกออนไลน์
│
☆ Happy Together (1997) ☆
ความยาว 1h 36m
ดูได้ทาง Apple TV
Let’s start over.
Starting over means different to him
เรื่องราวของ ไหลเยี่ยฟา และ โหเป่าหวัง คู่รักชายหนุ่มที่ตั้งใจเดินทางมายังประเทศอาร์เจนตินา หวังจะได้ดูน้ำตกอีกวาซูด้วยกัน แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนับวันยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ กลายเป็นความรักที่ทำให้เสียน้ำตา และทุกครั้งที่ตั้งใจจะห่างกันไป โลกกลับไม่เข้าใจ และเหวี่ยงพวกเขากลับมาเจอกันอยู่เสมอ อาจเป็นเพราะความรักครั้งนี้คงมีแต่พวกเขาที่เข้าใจมัน แต่เรื่องราวความรักจะเป็นยังไงต่อไปถ้าเกิดมีใครคนใหม่ก้าวเข้ามาจนทำให้ชีวิตที่เคยเหมือนเดิมและความสัมพันธ์ที่ค้างคามานานครั้งนี้ได้เปลี่ยนไป
│
☆ Call me by your name (2017) ☆
ความยาว 2h 10m
ดูได้ทาง Netflix / Apple TV
We belonged to each other, but had lived so far apart that we belonged to others now.
เรื่องราวของ Elio หนุ่มน้อยแสนธรรมดาที่ใช้ชีวิตแสนเรียบง่าย ชอบอ่านหนังสือ เล่นดนตรี และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ได้ตกหลุมรัก Oliver ชายหนุ่มที่มีความมั่นใจ ฉลาด และมีภูมิฐาน เมื่อความรักเริ่มก่อตัวขึ้น ความจริงในโลกอันโหดร้ายก็ก่อตัวขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะมันไม่ง่ายเลยที่โลกแห่งความจริงจะยอมรับตัวตนของเขา
ความรักครั้งนี้ทำให้ Elio ได้สัมผัสถึงการรักเป็นครั้งแรก ความสุขและความหวานที่ชวนให้เพ้อฝันและล่องลอย กลับทำให้เขาได้เรียนรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งในเวลาเดียวกัน เพราะว่านี่คือรักครั้งแรก เลยได้สัมผัสทั้งสุข ทุกข์ อ่อนไหว และเจ็บปวดจากรักเป็นครั้งแรก ความรู้สึกเหล่านี้เลยถูกฝังลึกลงในใจ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม
│
☆ Brokeback Mountain (2005) ☆
ความยาว 2h 14m
ดูได้ทาง Netflix
This Thing, It Grabs Hold Of Us Again At The Wrong Place, At The Wrong Time, And We’re Dead.
เรื่องราวของ แจ็ค และ เอนนิส พวกเขาได้พบกันที่เทือกเขา Brokeback จากที่เคยไม่ชอบหน้า แปรเปลี่ยนเป็นเพื่อนสนิท จนตอนทุดท้ายความรู้สึกเหล่านั้นก่อตัวขึ้นมาเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของทั้งสองไม่ได้ถูกเปิดเผยแต่กลับถูกเก็บเป็นความลับอย่างยาวนาน ท้ายที่สุดต่างคนได้ต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง กระทั่งพวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้งหลังผ่านไป 4 ปี หวนคืนกลับมาพร้อมกับความรู้สึกที่หนักอึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความรักที่เคยมี ความสัมพันธ์ที่เคยฝัน หรือความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้
│
☆ รักแห่งสยาม (2007) ☆
ความยาว 2h 30m
ดูได้ทาง Netflix
ความรักไม่มีคำว่ามากเกินไปหรอก ถึงเราจะทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง
แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่เคยทำอะไรเพื่อความรักเลยไม่ใช่เหรอ
เรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยคำว่ามิตรภาพที่มาพร้อมกับความสับสนและการค้นหาตัวเองของ มิว และ โต้ง เพื่อนสนิทสมัยเด็กที่ได้วนกลับมาเจอกันอีกครั้งหลังผ่านไปนานหลายปี ซึ่งการกลับมาเจอกันในครั้งนี้กลับม่ได้มีแค่มิตรภาพที่ก่อตัวขึ้น แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างที่มิวและโต้งเองก็ไม่คาดถึง
│
☆ The Danish Girl (2015) ☆
ความยาว 1h 59m
ดูได้ทาง Apple TV / Google Play
You made me beautiful. And now you’re making me strong. Such power in you.
เรื่องราวความรักของบุคคลในประวัติศาสตร์อย่าง ไอนาร์ เวเกเนอร์ และ เกอร์ด้า เวเกเนอร์ ที่การแต่งงานในครั้งนี้ของพวกเขาได้นำพาไอนาร์ไปสู่การค้นหาตัวเองและตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต นั่นก็คือการผ่าตัดแปลงเพศ ซึ่งหลังจากได้รับการผ่าตัดแล้วไอนาร์ก็ได้ใช้ชื่อว่า ‘ลิลี่ เอลเบ’
│
☆ Ammonite (2020) ☆
ความยาว 1h 58m
ดูได้ทาง Apple TV / Google Play
I don’t want to go back to the life I had before you.
เรื่องราวของ แมรี่ นักบรรพชีวินวิทยา ที่ได้รับ ชาร์ล็อต หญิงสาวที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและมักจะใจลอยอยู่เสมอมาเป็นผู้ช่วยหลังถูกสามีของชาร์ล็อตฝากฝังเอาไว้ แต่เรื่องราวกลับไม่เรียบง่ายอย่างที่คิด เมื่อความรู้สึกของทั้งสองกลับก่อตัวแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความรักที่ต้องหลบซ่อน
│
☆ Portrait of a Lady on Fire (2019) ☆
ความยาว 2h 1m
ดูได้ทาง Netflix
Not everything is fleeting. Some feelings are deep.
เรื่องราวของ มารียาน จิตรกรสาวที่ถูกจ้างมาวาดรูป เอลูอิส ลูกสาวเศรษฐีที่แม่ของเธอต้องการจะส่งภาพวาดไปเพื่อนัดดูตัว จากตอนแรกที่เอลูอิสไม่ยอมเป็นแบบให้ ท้ายที่สุดเธอได้ยอมเป็นเพื่อนกัน และพัฒนาความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว จนความรู้สึกเหล่านี้ได้ก่อตัวกลายเป็นความรักไปโดยไม่คาดฝัน กลายเป็นความสัมพันธ์ที่มากกว่าคนรู้จัก จิตรกร และมากกว่าเพื่อน
│
☆ Carol (2015) ☆
ความยาว
ดูได้ทาง Google TV
And so, I do the only thing I can. I release you.
เรื่องราวความรักระหว่าง Carol แม่หม้ายที่เพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน และ Therese พนักงานสาวแสนธรรมดา ทั้งสองได้พบเจอและตกหลุมรักกันอย่างสุดหัวใจ แต่แน่นอนว่าความรักครั้งนี้ยากที่จะเป็นไปได้ ด้วยความต่างกันทางฐานะ หน้าตาทางสังคม และความหลากหลายทางเพศที่ถูกสังคมปิดกั้น ทำให้พวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสได้รักกันอย่างแสนสุข แม้ความรักจะไม่ได้เป็นไปอย่างสวยงามอย่างในฝัน แต่ท้ายที่สุดเราก็อาจได้เรียนรู้ว่า ‘ในเวลาหนึ่งเราอาจได้เจอใครสักคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปตลอดกาล’
│
☆ Dear Ex (2018) ☆
ความยาว 1h 40m
ดูได้ทาง Netflix
My heart’s with you. I don’t have it anymore.
หนังที่ได้นำเสนอความรักของ LGBTQ+ บอกเล่าผ่านเรื่องราวของ ซ่งเฉิงซี เด็กชายวัยรุ่นที่ต้องรับมือกับความขัดแย้งระหว่างแม่ผู้ดื้อดึงกับชายรักอิสระที่เป็นทั้งคนรักและผู้ได้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ของพ่อผู้จากไป เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนให้เราได้เห็นถึงมุมมองความรักจากเพศที่สาม ความเจ็บปวด ความสับสน และความอ่อนไหว พร้อมทั้งทำให้เราได้เข้าใจถึงความรักมากขึ้น และได้เรียนรู้ว่าไม่มีความรักไหนที่จะคงอยู่ตลอดไป ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งเดียวที่เราทำได้คือการเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในความทรงจำและก้าวข้ามผ่านมัน เพื่อใช้ชีวิตต่อไป
│
☆ Boys Don’t Cry (1999) ☆
ความยาว 1h 58m
Don’t be scared. Look how beautiful out there.
เรื่องราวของ ทีน่า เด็กหญิงแสนซนและห้าว แต่เมื่อโตขึ้น เขาได้ค้นพบตัวตนว่าเขานั้นอยากเป็นผู้ชาย และแน่นอนว่าเรื่องราวของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะทีน่าถูกครอบครัวกดดันอย่างหนัก เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อและตัดผมสั้น พร้อมออกจากบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตแบบผู้ชายด้วยตัวเอง ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เขามีทั้งกลุ่มเพื่อนและคนรัก แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในพริบตา เมื่อทุกคนรอบข้างได้รู้ว่าเขาไม่ได้มีเพศสภาพแบบที่ทุกคนเข้าใจมาตลอด
หวังว่าทุกคนจะชอบ หนัง LGBTQ+ ที่เรามาแชร์วันนี้ แล้วมาต้อนรับเดือน Pride Month อย่างอบอุ่นไปด้วยกันนะคะ
แวะอ่านบทความอื่นๆ ช่วง Pride Month กันต่อได้ที่นี่ ✿
- Pride Month – พลังสีรุ้ง LGBT กับคุณค่าของเหล่าเพศทางเลือก
- Netflix ร่วมฉลองเดือน Pride Month ด้วยหนัง/ซีรีส์ LGBTQ หลากหลายแนว!
- ชวนดู 4 ซีรีส์ รับ Pride Month เดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ
Follow us for more interesting content!
ฝากถึงพี่น้อง แฟนๆ ที่เคารพรักทุกท่าน ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย จิ้มๆ
- Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
- Website: www.zipeventapp.com
- Instagram: @Zipevent
- Facebook: @Zipevent
- Twitter: @Zipevent
- Tiktok: @Zipeventapp
- LINE TODAY: Zipevent
- YouTube: Zipevent
- Blockdit: @Zipevent
