วาล- วาเลครี กูตาร์, เซบาสเตียน ลิลลี, บริจิตต์ โมโคร์ แซร์

8 เมษายน – 17 กรกฎาคม 2565

ณ The Forge of the Future, เวนิส

ซูมุส (SUMUS) หรือสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิวัฒนธรรมของเวนิสที่สร้างขึ้นโดยเอแลน โมลินารี ในปี 2563 พร้อมประเดิมการจัดงานนิทรรศการครั้งแรกในวันที่ 8 เมษายน 2565 ณ ลา ฟูสินา เดล ฟูตูโร (La Fucina del Futuro) ภายใต้ชื่องานว่า "From Chaos to Harmony"

นิทรรศการ "From Chaos to Harmony" จะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนถึง 17 กรกฎาคม ผู้จัดงานตั้งใจที่จะพิจารณาและสำรวจถึงศักยภาพการเปลี่ยนแปลงของศิลปะและปลุกจิตสำนึกผ่านผลงานของศิลปินที่โด่งดังระดับนานาชาติ 3 คน ได้แก่ วาล- วาเลครี กูตาร์, เซบาสเตียน ลิลลี และบริจิตต์ โมโคร์ แซร์

นิทรรศการดังกล่าวเชื่อมโยงกับความหมายของเลข 7 ตามศาสตร์ด้านสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นเลขที่กระตุ้นระดับแห่งความก้าวหน้า ทั้งยังสื่อถึงระดับของสติ ท้องฟ้าทั้ง 7 รวมทั้ง 7 ระดับของหนทางสู่การเริ่มต้นสิ่งใหม่ ตามหลักวิทยาศาสตร์และฟิสิกส์ควอนตัมแล้วจักรวาลไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียง 4 มิติที่เรารู้จักกันเท่านั้น แต่ทว่ายังมีอีก 7 มิติซึ่งทำหน้าที่เป็นสื่อนำพาพลังงานและข้อมูล

ศิลปินทั้ง 3 คนมีแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่ทว่าเสริมกันและกันในขณะที่ต่างคนต่างพยายามถ่ายทอดความหมายของหัวใจ จิตใจ และร่างกายที่เชื่อมโยงกับเลข 7 อาทิ วาล – วาเลครี กูตาร์ กับประติมากรรมที่รวมฉากทั้ง 7 ของ "From Chaos to Wisdom" สำหรับเซบาสเตียน ลิลลี เขานำเสนอวิดีโอ 7 เรื่องที่ตัดตอนมาจากผลงานของเขาที่ชื่อ "From Chaos to Harmony" ส่วนบริจิตต์ โมโคร์ แซร์ ได้ทดลองเกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้ง 7 

ประติมากรรมของวาลมีขนาด 1:5 เทียบกับผลงานชิ้นเอกของเธอที่ชื่อ "From Chaos to Wisdom" โดยเธอได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ก่อนที่จะขยายไปสู่การรังสรรค์งานประติมากรรมชิ้นมหึมาที่สูงถึง 36 เมตร ซึ่งตั้งโชว์สูงตระหง่านอยู่บนเนินเขาที่หันหน้าไปทางเมืองไทจงในไต้หวัน และยังกลายเป็นหนึ่งในประติมากรรมสัมฤทธิ์ร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกชิ้นหนึ่ง

วาลอธิบายถึงการเดินทางภายในและเชิงปรัชญาที่ปัจเจกบุคคลต้องเผชิญเพื่อก้าวข้ามผ่านความโกลาหลของจิตใต้สำนึกไปสู่สภาวะแห่งปัญญาและสติสัมปชัญญะโดยผ่านฉากเหตุการณ์สำคัญทั้ง 7 ได้แก่ ความโกลาหล : ที่ซึ่งบุคคลต้องถูกครอบงำด้วยโครงสร้างทางจิตใจและร่างกาย ทั้งยังเป็นโลกที่บุคคลรู้สึกว่าล้าสมัยและพยายามทำความเข้าใจและเผชิญหน้ากับมัน ฉากต่อไปคือการข้ามบททดสอบที่เจ็บปวด : โครงสร้างจัดระเบียบตัวเองและบุคคลพยายามจัดการความสัมพันธ์ของตนเองกับสภาพแวดล้อมของพวกเขา การซ่อนหา : สิ่งที่เรากำลังตามหา ปัจเจกชนแต่ละคนดำเนินชีวิตไปพร้อมกับการเล่นซ่อนหาเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความคิดของเขา ป่า : ป่าทึบที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ณ ที่ที่ภาพของตัวเองปรากฏขึ้น วิปัสสนา : ภายใต้อาณาเขตของวัดวาอาราม บุคคลต่างเดิน ประเมินอัตราส่วนของสรรพสิ่งรอบตัว สิ่งที่พวกเขาเป็น และท่องไปในโลกแห่งความสงบและความบริสุทธิ์ ประตูแห่งอิสรภาพ : และแล้วสิ่งแวดล้อมก็ถูกจัดระเบียบและเผยให้เห็นเส้นทางที่ถูกต้อง ปัญญา: ที่นั่น สูงขึ้นไป สันติสุขบังเกิดขึ้น ณ จุดสิ้นสุดแห่งความบริสุทธิ์

หลังจากใช้เวลาเขียนและถ่ายทำมากกว่า 5 ปี เซบาสเตียน ลิลลีได้นำเสนอสารคดีเรื่อง "From Chaos to Harmony" ซึ่งพูดถึงกฎพื้นฐานของชีวิต การเดินทางของจิตวิญญาณที่ทำให้เราเข้าใจโลก จักรวาลของเรา ธรรมชาติและตัวเรา ... และถามตัวเองว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

สำหรับผลงานศิลปะประเภททดลองด้านงประสาทสัมผัสทั้ง 7 ของบริจิตต์ โมโคร์ แซร์ แสดงให้เห็นถึงหนทางแห่งปรัชญาและพัฒนาการของเธอในฐานะจิตรกร-ประติมากร กับการมุ่งสู่โลกดิจิทัลไปจนถึงการสร้างประสบการณ์เสมือนจริง

"การขยายตัวของสติ" โดยบริจิตต์ โมโคร์ แซร์ สะท้อนความลุ่มลึกทางปรัชญาของเธอที่ต้องการช่วยให้มนุษยชาติพัฒนาตนเองไปสู่การตื่นรู้ในด้านดีของจักรวาล ธรรมชาติและมนุษย์ ผ่านการซึมซับผลงานที่ทางซูมุสจัดแสดงในครั้งนี้

เรเชล เซดโดห์ ทำหน้าที่เป็นภัณฑารักษ์ของงานนิทรรศการ เธอได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับสหวิทยาการผ่านการฝึกฝนและการสร้างสรรค์ผลงานของเธอ เธอมุ่งเน้นที่การสลับสับเปลี่ยนที่ของผลงาน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากจูดิธ เกซ ภัณฑารักษ์งานศิลปะดิจิทัล สำหรับความน่าสนใจของการวิจัยเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางของศิลปะนั้นได้มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์กับพื้นที่ผ่านการเดินท่องไปอย่างอิสระของผู้ชมที่จะได้สัมผัสและตีความตามวิจารณญาณของตนเอง อันสอดคล้องกับองค์ความรู้ล่าสุดที่มีอิทธิพลต่อจุดกำเนิดแห่งสติ

ผลลัพธ์ที่ได้คือความผันแปรของภาพและเสียงที่สัมพันธ์กับภาพวาดและประติมากรรมของบริจิตต์ โมโคร์ แซร์ โดยเธอได้ใช้ชุดเครื่องมือ ในสร้างการรับรู้ที่หลากหลาย อาทิ เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง การสร้างประสบการณ์เสมือนจริงด้วยเสียง แอนิเมชั่น 3 มิติ โฮโลแกรม ภาพวิดีโอที่สร้างจากรูปทรงซ้ำ ๆ กัน และรูปแบบแสงที่หลากหลายเพื่อกำหนดพื้นที่ที่สามารถรับรู้ได้

นิทรรศการ "From Chaos to Harmony" จะนำไปสู่กิจกรรมที่สำคัญ ๆ และหลากหลาย อาทิ เกษตรกรรม การศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม โภชนาการ เทคโนโลยี งานฝีมือ ซึ่งซูมุสกำลังมุ่งพัฒนาเพื่อทำงานร่วมกันและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อยู่อาศัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ปฏิบัติการบนหมู่เกาะต่าง ๆ ในเวนิส ซูมุสต้องการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความตั้งใจที่จะเปิดโอกาสในการเรียนรู้และสร้างกระบวนทัศน์ใหม่แห่งการสร้างความกลมกลืนกับสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ ซึ่งเวนิสมีบทบาทสำคัญในการสร้างโลกใหม่ดังกล่าว

Event Contact