วันชื่น คืนป่า / Once In A Wild collective art exhibition x8 Zipevent

วันชื่น คืนป่า / Once In A Wild collective art exhibition x8

26 Jan - 25 Feb 2024
13:00 - 18:30 (UTC+7)
ATTA Gallery

Event Information


วันชื่น คืนป่า / Once In A Wild

collective art exhibition x8

 

26 มกราคม –25 กุมภาพันธ์ 2567

งานเปิดนิทรรศการ 26 มกราคม 2567 เวลา 17:00 – 20:00 น.

 

 

อัตตา แกลเลอรี่ มีความยินดีขอเชิญเป็นเกียรติร่วมงาน และ พบปะพูดคุยกับศิลปินในงานเปิดนิทรรศการรวมพลังครั้งพิเศษของ 8 ศิลปินและดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้าของไทย วิภู ศรีวิลาศ, ม.ล.ภาวินี ศุขสวัสดิ์ สันติศิริ, ดร.สิงห์ อินทรชูโต, เพลินจันทร์ วิญญรัตน์, รัฐ เปลี่ยนสุข, จูน เซคิโน, พิบูลย์ อมรจิรพร และ นักรบ มูลมานัส เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ หารายได้ช่วยเหลือสัตว์ป่าเจ็บป่วยและถูกทิ้งภายใต้การดูแลของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) ในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567 ระหว่างเวลา 17:00 – 20:00 น.  โดยนิทรรศการจะมีจัดไปจนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567

 

เกี่ยวกับนิทรรศการ

นิทรรศการศิลปะและงานออกแบบ การรวมพลังครั้งพิเศษของ 8 ศิลปินและนักออกแบบชั้นแนวหน้าของไทย เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน หารายได้ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่บาดเจ็บและสัตว์ป่าที่ไม่อาจคืนสู่ป่าได้

 

Isolation and Friendship โดย วิภู ศรีวิลาศ

นักสร้างสรรค์งานประติมากรรมเซรามิก ประติมากรรมสื่อผสม รูปปั้นสำริด และศิลปะแบบที่ให้ผู้ชมมีส่วนร่วม งานศิลปะของวิภูสื่อสารบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตและความรู้สึก โดยมักนำเอาวัฒนธรรม ตำนาน ความเชื่อของไทย สอดแทรกเป็นแรงบันดาลใจ ผลงานของเขาเป็นที่รู้จักในระดับสากล ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด วิภูเป็นหนึ่งในอีกหลายสิบล้านคนที่ต้องทนกับการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจ ความรู้สึก และทำให้คนจำนวนมากได้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อชีวิต ช่วงหลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาด วิภูได้สร้างสรรค์ผลงานซีรีย์ “Always Better Together” เพื่อสื่อสารความรู้สึกความเชื่อของเขาที่ว่า ‘ชีวิตจะดีงามที่สุดอย่างแท้จริง เมื่อมีเพื่อนและครอบครัวอยู่เคียงข้าง’

ผลงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้คือภาพวาดบนพอร์ซเลนชื่อว่า ‘Isolation and Friendship’ เป็นหนึ่งในซีรีย์ดังกล่าว บอกเล่าหลากหลายรูปแบบความสัมพันธ์ฉันท์มิตร โดยมีลวดลายจาก ‘สิม’ อีสาน เป็นแรงบันดาลใจ

 

Heal Me, Feed Me, Free Me โดย ม.ล.ภาวินี ศุขสวัสดิ์ สันติศิริ

นักออกแบบหญิงผู้มีชื่อเสียงมายาวนานและมีผลงานโดดเด่นมาโดยตลอด เจ้าของแบรนด์ Ayodhya และผู้ก่อตั้งสมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แนวดีไซน์ ร่วมกันกับอีก 3 นักสร้างสรรค์ ‘ต่อ สันติศิริ’ ครีเอทีฟโฆษณามือหนึ่งของเมืองไทย, ‘กรกต อารมย์ดี’  นักออกแบบที่โดดเด่นด้านผลงานไม้ไผ่จากแบรนด์ Korakot และ Angus Hutcheson จาก Ango แบรนด์ไลท์ติ้งดีไซน์ นำเสนอ ‘Heal Me, Feed Me, Free Me’ ผลงานประติมากรรมไฟ (light sculpture) รูปหมีควาย 3 ตัว พ่อ-แม่-ลูก ที่ทำจากโครงไม้ไผ่ลวดสานขึ้นรูปกรุด้วยผ้าฝ้าย

                  ภาพของหมีควาย สัตว์ป่าที่เกือบใกล้สูญพันธุ์ และสัตว์ป่าอื่น ๆ  ซึ่งต้องมาอยู่ในกรงขนาดเล็ก มีอาหารไม่พอเพียง รวมถึงสัตว์อื่น ๆ ที่บาดเจ็บต้องได้รับการดูแลรักษาก่อนปล่อยคืนสู่สภาพธรรมชาติ  คือแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานศิลปะ เพื่อสื่อให้เห็นถึงสภาพที่สัตว์เหล่านี้ต้องการ

 

Fading Tiger โดย รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต

นักออกแบบ นักวิชาการที่ทำงานด้านการออกแบบเพื่อความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ผลงานที่ผ่านมาของเขา ไม่เพียงทำขึ้นมาเพื่อช่วยเปลี่ยนขยะหรือสิ่งของเหลือทิ้งให้กลายเป็นของมีค่า แต่ยังเน้นการปลุกจิตสำนึกของผู้คนให้หันมาใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ด้วย ประติมากรรมชื่อ  ‘Fading Tiger’ หรือ ‘เงาเสือ’ ที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ทำขึ้นจากเศษเหล็ก ต่อเป็นโครงร่างของเสือ เป็นงานที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการที่เสือซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ผู้มีพลังอำนาจ แข็งแกร่ง และกล้าหาญ มีจำนวนลดลงอย่างมากจนบางพันธุ์ใกล้สูญไปจากเมืองไทย จำนวนเสือในไทยลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี เพราะถูกคนล่าและป่าถูกทำลาย ประชากรของเสือที่หายไป ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในป่า และท้ายที่สุดก็ส่งผลต่อระบบนิเวศทั้งหมด ทำให้ธรรมชาติเสียสมดุล

เส้นโครงรูปร่างเสือ เป็นการสื่อสารให้ตระหนักร่วมกันว่า หากเราไม่ดูแล ไม่อนุรักษ์ เสือจะเหลือเพียงเส้นเงาลาง ๆ กลายเป็นเพียงภาพในความทรงจำ ไม่มีเสือเหลือให้นิเวศป่าสมดุลอีกต่อไป

 

Beyond the Hunt โดย เพลินจันทร์ วิญญรัตน์

ศิลปิน textile art และนักออกแบบสิ่งทอที่มีชื่อเสียงในระดับท็อปของไทย ผลงานสร้างสรรค์ของเพลินจันทร์ที่เน้นสีสัน สร้างมิติ เล่นกับเท็กซ์เจอร์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและสื่อสารความรู้สึกอย่างมีเอกลักษณ์ มีปรากฏให้เห็นทั้งในเมืองไทยและต่างแดน ทั้งในโรงแรมชื่อดัง อาคารและสโตร์ที่มีชื่อเสียงซึ่งหนึ่งในนั้นมี Louis Vuitton ร่วมอยู่ด้วย

                  ผลงานที่เพลินจันทร์นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ ชื่อว่า ‘Beyond the Hunt’ เกิดขึ้นจากการตั้งคำถามของเธอที่ว่า“ทำไมเราต้องล่าฆ่าสัตว์เพื่อสนองความบันเทิง”, “ทำไมเราต้องนำสัตว์ป่ามากักขังในกรงแคบ ๆ” และ “ทำไมเราถึงไม่ชื่นชมสัตว์ป่าที่อยู่ตามธรรมชาติ”

งาน textile art รูปเสือขนาดใหญ่สูง 3 เมตรกว่าที่ถูกตรึงอยู่กับโครงเหล็กแน่นพอดีตัว เปรียบเสมือนเสือที่ถูกขังอยู่ในกรงแคบ ๆ เพื่อให้คนมาดูเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยง ทั้ง ๆ ที่เสือควรจะมีชีวิตโลดแล่นตามธรรมชาติในป่าอันกว้างใหญ่ วิญญาณเสือตัวนี้ ทอด้วยเส้นใยเหลือเก็บจากการทอพรมที่ค้างสต๊อกมาจากการทำงานในโปรเจ็คท์ใหญ่ ๆ เป็นเส้นใยที่นำมาทอพรมผืนใหม่ไม่ได้และถูกเก็บมามากกว่า 20 ปี

 

The Last Safe Place โดย รัฐ เปลี่ยนสุข

นักออกแบบมือรางวัลและสถาปนิกดีเด่น ผู้ผนวกเอาความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบและความหลงใหลในธรรมชาติของงานศิลปะไทย มาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะ รัฐมักนำเอาวัสดุและเทกนิคของงานศิลปะไทยแบบดั้งเดิมเข้ามามีส่วนในการสร้างสรรค์ผลงานของเขา สร้างให้งานศิลปะที่สอดแทรกอารมณ์ของความเป็นไทย มีเอกลักษณ์ และร่วมสมัย

                  ผลงาน ‘The Last Safe Place’ ที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้  เป็นช่อใบไม้ที่ทำจากทองเหลือง ซึ่งศิลปินต้องการสื่อให้เห็นว่านี่คือบ้านหลังสุดท้ายของมนุษย์และสัตว์ป่า เป็นตัวแทนของความหวัง เป็นป่าที่เราต้องดูแลรักษาให้เป็นแหล่งพักพิงอันปลอดภัยสำหรับสัตว์ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เกิดนิเวศที่สมดุลซึ่งส่งผลดีต่อมนุษย์เช่นกัน

 

A Unicorn in the Room โดย นักรบ มูลมานัส

ศิลปินผู้มีชื่อเสียงด้านงานคอลลาจอาร์ต ผลงานของเขามักสะท้อนเรื่องราวและเจตคติที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบันของไทย ความสัมพันธ์ในบางแง่มุมระหว่างชนชาติตะวันออกกับตะวันตก นอกจากผลงานภาพศิลปะ นักรบยังเป็นนักเขียนผู้เล่าเรื่องในหลากหลายแง่มุมทั้งในด้านทัศนคติ ค่านิยมทางวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ของไทยและชาติตะวันตกที่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ความ‘คม’ของเนื้อหาที่เขาสื่อสารผ่านงานศิลปะและงานเขียน สร้างความแตกต่าง โดดเด่น และความน่าสนใจให้แก่ผลงานของเขาเสมอมา

งานภาพพิมพ์คอลลาจ A Unicorn in the Room เป็นเศษเสี้ยวส่วนหนึ่งของการสำรวจความนึกคิด ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ผ่านความทรงจำทางประวัติศาสตร์ในยุคจักรวรรดินิยม ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงวาทกรรมว่าด้วยความเป็นตะวันออกกับตะวันตก ความเป็นเรากับความเป็นอื่น หรือความเป็นจริงกับจินตนาการ

 

Maru โดย จูน เซคิโนะ

สถาปนิกชื่อดังผู้นำเอาธรรมชาติและความธรรมดาเรียบง่าย มาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่เรียบง่ายแต่มีรายละเอียดไม่ธรรมดา ในการจัดแสดงผลงานครั้งนี้ก็เช่นกัน เขานำเอา ‘แมวกวัก’ สัญลักษณ์ตามคตินิยมของญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักกันดีมาเป็นแนวคิดต้นเรื่อง แมวกวักโดยทั่วไปเป็นตัวแทนของการนำมาซึ่งความโชคดี และความมั่งคั่ง แต่หากเป็นแมวกวักสีดำจะสื่อถึงการช่วยปกป้องคุ้มครองไม่ให้เจ็บป่วย ให้สุขภาพดี และพ้นจากโชคร้ายนานา

                  คอนเส็พท์ในการออกแบบของเขามุ่งไปที่การมองและการรับรู้ของคนที่ต่างกันไป ระหว่างแมวบ้านกับเสือดำ ด้วยรูปทรงของ Maru ที่ถูกทำขึ้น สร้างการรับรู้ที่ชวนให้โยงใยถึงกัน งานสร้าง Maru ได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างงานสถาปัตยกรรม ทำจากแผ่นไม้รูปทรงเส้นโค้งวงกลมที่ไม่บรรจบกัน ไม้แต่ละชิ้นถูกวางซ้อนกันอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างรูปทรงที่สง่างาม โดยมี พิษณุ นำศิริโยธิน ครูและนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญงานไม้มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานที่เปิดโอกาสให้คนตีความได้อย่างเสรี ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความเชื่อ และมุมมองของแต่ละคน

 

Apart and Connection โดย พิบูลย์ อมรจิรพร

สถาปนิก และนักออกแบบผู้ก่อตั้งแบรนด์ Plural Designs ผลงานของเขามักมีความเกี่ยวเนื่องกับงานคราฟท์และงานศิลปะมาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงผลงานที่มีชื่อว่า  ‘Apart and Connection’ ซึ่งนำมาจัดแสดงในครั้งนี้เช่นกัน

พิบูลย์รวบรวมงานรูปตัวสัตว์ขนาดเล็กมาจากหลากหลายสถานที่ มีวัสดุทั้งที่เป็นเซรามิก ไม้ และพลาสติก แต่ละตัวมีตําหนิ มีรอยแตก ต่างกันไป ตําหนิที่เกิดขึ้นทําให้ชิ้นงานเหล่านี้แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ไปตลอดกาล แต่ยังคงถูกเก็บไว้  เขานำรูปสัตว์เหล่านี้ มาซ่อมด้วยเทคนิคคินสึงิ (Kinsugi) ทำให้สัตว์เหล่านี้มีชีวิตขึ้นมาใหม่ เพื่อต้องการบอกเล่าเรื่องราวของของสัตว์ป่าที่บาดเจ็บและถูกนํามาดูแลในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า แม้ไม่อาจมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ไม่อาจหวนคืนสู่ป่าธรรมชาติ แต่จะทำอย่างไรให้ชีวิตของเหล่าสัตว์ภายในศูนย์ฯ ดีขึ้นกว่าเดิมได้

การซ่อมชิ้นงานด้วยเทคนิคคินสึงิ เพื่อให้บรรดาตัวสัตว์ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ทําให้ศิลปินได้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ผ่านกระบวนการการทำงาน ทำให้เกิดการปรับตัวเปลี่ยนแปลง สร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ต่างจากเดิม

 

นิทรรศการครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Design Week 2024 จัดแสดงเพื่อหารายได้สนับสนุนการสร้างคุณภาพชีวิตของสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ สัตว์ป่าที่เกี่ยวข้องกับคดีความ และสัตว์ป่าที่ไม่อาจคืนสู่ป่าได้ ภายใต้การดูแลของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) รวมถึงสนับสนุนสวัสดิการการทำงานของเจ้าหน้าที่ในศูนย์ฯ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ให้ได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการลักลอบค้าสัตว์ป่าและขยายพันธุ์สัตว์ป่า

 

ศิลปิน

วิภู ศรีวิลาศ, ม.ล.ภาวินี ศุขสวัสดิ์ สันติศิริ, ดร.สิงห์ อินทรชูโต, เพลินจันทร์ วิญญรัตน์, รัฐ เปลี่ยนสุข, จูน เซคิโน, พิบูลย์ อมรจิรพร และ นักรบ มูลมานัส


Location Details


ATTA Gallery

LOCATION

48 Charoen Krung 30, Khwaeng Bang Rak, Bang Rak Bangkok, 10500 Thailand

VIEW MAP