
Curator's Statement โดย อนุวัฒน์ อภิมุขมงคล
“Man is born free and everywhere he is in chains.”
“มนุษย์เกิดมาเสรี แต่ทุกแห่งทุกที่อยู่ในพันธนาการ” (Jean-Jacques Rousseau: 1974)
นี่อาจเป็นคํากล่าวที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลย ว่ามนุษย์ผู้มีเจตจํานงเสรีกลับถูกจองจําด้วยโซ่ตรวนของ สังคม ที่เราร่วมผลิตซ้ํามันอยู่เสมอ ไม่ใช่มนุษย์อย่างเราหรอกหรือที่สร้างอํานาจขึ้นมาและถูกปกครองด้วย อํานาจนั้นเสียเอง ไม่ใช่มนุษย์อย่างเราหรอกหรือที่สร้างกฎเกณฑ์-กฎหมายมาเพื่อใช้กดขังพวกเราด้วยกันเอง และไม่ใช่มนุษย์อย่างเราหรอกหรือที่ประกอบสร้างสิ่งมายาทั้งปวงให้เป็นกรงไก่ขนาดใหญ่ ใช้กักขังเสรีภาพ ระหว่างกัน รู้ตัวอีกทีเราก็กลายเป็นมนุษย์ที่ถูกมัดให้หลงไปกับเงาในถ้ําของเพลโต2เสียแล้ว สภาพแวดล้อมอัน เสื่อมโทรม การแย่งชิงอํานาจ การต่อสู้ทางการเงิน ชนชั้นทางสังคม สงคราม ความรุนแรง จึงเป็นผล ประกอบการชั้นเลิศของสิ่งเหล่านี้
เฉกเช่นกับพื้นที่ที่จะถูกกล่าวถึงในนิทรรศการในครั้งนี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ห่างไกลหรือมีขนาดเล็กแค่ ไหนในแผนที่โลก โซ่ตรวนและพันธนาการทางสังคมก็ยังคงตามไปล่ามเราทุกๆที่ เพราะมนุษย์ก็ยังคงต้องการ สังคมเพื่อดํารงอยู่ เพียงแต่เราต้องเลือกว่าจะมีชีวิตอยู่ในสังคมแบบไหน จะรับมือหรือแก้ไขมันอย่างไร ด้วย ความหวัง
กรกฎ สังข์น้อย ศิลปินผู้นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคมพื้นที่จังหวัดชายแดน ใต้ ที่นับถือศาสนาอิสลาม พยายามเรียนรู้และทําความเข้าใจถึงแก่นแกนของมนุษย์ในศาสนาอื่นๆ ในขณะที่มู ฮัมหมัดซุรียี มะซู ศิลปินผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งแตกต่างจากผู้คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ที่นับถือศาสนาพุธ ก็ พยายามเรียนรู้และทําความเข้าใจผู้คนต่างถิ่นเช่นกัน ผลงานของศิลปินทั้งสองคนจึงสะท้อนเจตจํานงเสรีของ กันและกัน โดยกรกฎเปรียบเทียบชนชั้นและอํานาจทางสังคมของไทยที่ถูกทําให้อยู่ในรูปของวัตถุบูชา กับหลัก สามัญของศาสนาอิสลามที่เชื่อในพระเจ้าโดยปราศจากการบูชารูปลักษณ์หรือวัตถุใดๆ รูปบุคคลที่ควรบูชา สําหรับกรกฎจึงเป็นบิดา-มารดา ผู้ให้กําเนิด ไม่ใช่บุคคลในมายาคติแต่อย่างใด และภาพวาดดอกทานตะวันสี ทองนับร้อย ยิ่งตอกย้ําการเบ่งบานของความหวังในการมีอิสระที่จะเลือกสังคมที่เราอยากจะอยู่ สีที่เรา อยากจะเป็น และนกฉลุลายของมูฮัมหมัดซุรียี ที่ใช้แทนความถึงมนุษย์ที่งามด้วยความหลากหลาย แต่ถูกฉุด รั้งไม่ให้โบยบิน ด้วยบ่วงของความเกลียดกลัวและความไม่เข้าใจ ที่ถูกสร้างขึ้นจากผู้มีอํานาจ และการหล่อ หลอมอุดมคติอันแข็งกร้าวจากประวัติศาสตร์ที่ใครบางคนเขียนขึ้น การสื่อสารผ่านผลงานศิลปะของศิลปินสอง คนนี้จึงไม่ใช่การเรียกร้องให้เราทุกคนเชื่อในแบบเดียวกัน แต่เพียงเพื่อสะท้อนภาพความจริงในฐานะผู้ที่อยู่ ด้วยกันในเรือนจําแห่งนี้ ด้วยความหวังว่า... ดอกไม้จะแย้มกลีบสีทองผ่องอําไพ และนกจะกางปีกบินออกไป ด้วยเสรี
Hopefully จัดแสดงที่ VS 24 ซอยนราธิวาส 24 (วัดโพธิ์แมน) ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน จนถึง 27 สิงหาคม 2023 โดยมีพิธีเปิดในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นเป็นต้นไป
2198, 10-11 Naradhiwas Rajanagarindra Rd, Chong Nonsi, Yan Nawa, Bangkok 10120 Bangkok, 10120 Thailand
VIEW MAP