
“ เพราะเปลี่ยนแปลง จึงคงดำรงอยู่ ”
ฉันยังคงเชื่อในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากผู้คน จากการเดินทางและประสบการณ์ของเหล่าผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในพื้นที่หรือท้องถิ่นนั้นๆ
ฉันเกิดและเติบโตที่กรุงเทพฯ ศูนย์กลางของสรรพสิ่งและการออกกฏต่างๆ ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ที่บางความเชื่อและวัฒนธรรม มีที่มาจากการถูกกำหนดโดยผู้มีอำนาจแต่ไม่มีความเข้าใจในเรื่องของความหลากหลายของมนุษย์
ครั้งนี้เป็นการเดินทางในปีที่สองของฉัน เพื่อค้นหาความหมายของคำถามที่ว่า “อะไรคือไทยแท้?” คำถามที่ฉันย้อนกลับมาถามตัวเอง เมื่อครั้งที่มีคนบอกว่าสิ่งที่ฉันทำเป็นเรื่องแหวกม่านประเพณีไทยและต้องการพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า “ไม่มีอะไรที่แท้จริง” สิ่งที่ยังคงอยู่ คือการผสมผสาน การเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เผ่าพันธ์มีการดำรงค์อยู่อย่างเหมาะสมตามกาลเวลา
อีสานที่ฉันรู้จักจากสื่อหลักก่อนการเดินทาง ช่างแตกต่างจากอีสานที่ฉันได้สัมผัสในช่วงระยะเวลา ๑ เดือน ในการทำงานเสียเหลือเกิน
ถ้าให้ฉันได้จำกัดความสั้นๆ สำหรับผู้คนที่นี่ คือ “สุภาพ,ซื่อ,มีความคิดสร้างสรรค์และรักวัฒนธรรมบ้านเกิด”
ถ้าฉันไม่ได้มาอยู่ที่นี่ ฉันคงไม่รู้ว่า อีสานนั้น ;
“มีพื้นที่เขียวขจี ส่วนที่ดินสีแดงนั้น เพียงเพราะว่าเป็นดินที่มีแร่ธาตุ ไม่ใช่เพราะความแห้งแล้ง”
“อากาศที่นี่ช่วงหน้าหนาว เย็นสบาย พอๆกับภาคเหนือ”
“ฉันยังคงเห็นผู้คนใช้อักษรไทน้อย ในภาษาเขียนบางครั้ง”
“ภาษาอีสานใกล้เคียงกับภาษาโบราณ มากกว่าภาษากลางที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นให้มีความสละสลวย”
“อีสานมีอะไรอีกหลายๆอย่างให้น่าค้นหา”
ภาพถ่ายชุดนี้ ถูกสร้างมาเพื่อสดุดีอีสานและผู้คนที่ฉันได้พบเจอที่นี่
ฉันขออนุญาตเรียนรู้และเล่าเรื่องราว ผ่านร่างกายของผู้คนที่มาเป็นแบบ ถ่ายทอดตัวตนของพวกเขาออกมาในมุมมองของฉันเอง
โศภิรัตน์ ม่วงคำ
(ผู้หญิง ถือกล้อง)