มติการประชุม คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ล่าสุดได้เห็นชอบ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2579 (PDP 2015) ซึ่งเป็นแผนจัดหาไฟฟ้าในระยะยาว โดยปรับลดค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลงเหลือร้อยละ 3.94 จากเดิมขยายตัวร้อยละ 4.41 รวมทั้งให้สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก
สาระสำคัญของแผน PDP 2015 ประการหนึ่ง คือ การปรับลดสัดส่วนการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติที่ปัจจุบันสูงถึงร้อยละ 65 ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 40 ในปี พ.ศ. 2579 โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และการรับซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน ในขณะที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ของปริมาณความต้องการไฟฟ้าสูงสุด ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีเสถียรภาพและความมั่นคง อันจะเป็นประโยชน์และความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในอนาคต
จากความสำคัญดังกล่าว ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และนักลงทุนต่างตระหนักดีถึงโอกาสในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน อาทิ Solar Farm , Wind Farm, ชีวมวล ชีวภาพ และขยะ เพื่อให้สอดรับกับการขับเคลื่อนนโยบายด้านพลังงานของภาครัฐ ทว่าการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในประเทศไทยปัจจุบัน ยังมีปัญหา อุปสรรคอยู่หลายประการ ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงานและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า อีกทั้งต้องคำนึงประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
โอกาสนี้ IEEE Power & Energy Society – Thailand (IEEE-PES) จึงได้ร่วมกับ โครงการ Green Network จัดงานสัมมนาและนิทรรศการ หัวข้อ “เปิดประสบการณ์ เทคนิค การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน (ปัญหา อุปสรรค และวิธีการแก้ไข)” ขึ้น ในวันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 08.30 – 17.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
อนึ่ง การจัดงานดังกล่าว มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเชิงเทคนิคเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ ทั้ง Solar Farm , Wind Farm, ชีวมวล ชีวภาพ และขยะ ตลอดจนเพื่อเปิดมุมมอง แลกเปลี่ยนแนวคิด และประสบการณ์ด้านการลงทุนพลังงานทดแทนในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพลังงานทดแทนให้มีศักยภาพอย่างยั่งยืนต่อไป
ไทย
