A night of outdoor jazz music by the river from Lisa Ono, the woman who brought Brazilian bossa nova music to the Japanese scene, and jazz fusion group Spyro Gya, known for their hit songs "Morning Dance" an "Shaker Song." There will also be local support acts and plenty of food trucks such as Cactus, Forkers, Orn the Road and Deli Q.
“การกลับมาอีกครั้งของราชินีบอสซา โนว่ากับความประทับใจไม่รู้ลืม”
หลังจากประสบความสำเร็จเมื่อสองปีที่แล้ว ในครั้งนี้แฟนๆลิซ่าเตรียมพบกับเธออีกครั้ง ในรูปแบบคอนเสิร์ตแจ๊สริมสายน้ำ The River Jazz Festival 2015 ซึ่งในครั้งนี้ลิซ่าได้เตรียมเพลงพิเศษมามอบให้กับแฟนๆมากมาย ให้สมกับการรอคอย
นอกจากนี้ผู้จัดงานอย่าง Lexus และ Maximage ได้เพิ่มความพิเศษอีกด้วยศิลปินฟิวชั่น แจ๊สระดับโลก “Spyro Gyra” ที่ได้เข้าชิง 12 รางวัล Grammy Awards มาพร้อมกับเพลงฮิต Shaker Song และ Morning Dance ร่วมด้วย ศิลปินหญิงมากความสามารถแถวหน้าของเมืองไทย Piano Angel โฟม-คีตา
โดยในปีนี้ผู้จัดงานได้เนรมิตลานกิจกรรมเอเชียทีคให้กลายเป็นลานแจ็สริมน้ำที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโค้งน้ำเจ้าพระยา
ร่วมสัมผัสเสียงเพลงแจ๊สท่ามกลางบรรยากาศแห่งสายน้ำในค่ำคืนอันแสนโรแมนติค
วันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ Asiatique the River Front บัตรราคา 2,000 และ 3,000 บาท
สอบถามรายละเอียดได้ที่ Thai Ticket Major 02-262-3456
รายได้ส่วนหนึ่ง สนับสนุน ศิริราชมูลนิธิ เพื่อใช้ในกิจกรรมการกุศลต่อไป
ประวัติศิลปิน Lisa Ono
ย้อน กลับไปที่จุดเริ่มต้น Lisa Ono เกิดที่ประเทศบราซิลและกลับมาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นพร้อมกับครอบครัวตอนอายุ 10 ขวบ โดยระหว่างนั้น Lisa Ono ก็ไปๆมาๆ และใช้ชีวิตอยู่ทั้งในบราซิลและญี่ปุ่น แม้จะได้ใช้ชีวิตระยะสั้นๆในบราซิล แต่เธอก็ได้รับอิทธิพลทางดนตรีจากที่นั่นมาเต็มเปา เริ่มจากการได้ทำงานเป็นนักร้องในคลับของพ่อในบราซิล จากนั้น Lisa Ono ก็ได้คลุกคลีกับเพลงแนวบราซิลเลี่ยน และบอสซา โนวา เรื่อยมา
เส้นทาง การเป็นศิลปินแนวบอสซา โนวา ของ Lisa Ono เริ่มต้นตอนอายุได้ 27 ปี ด้วยน้ำเสียง และท่วงทำนองในการเล่นกีต้าร์อันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับรอยยิ้มอันเปี่ยมเสน่ห์ ทำให้เธอประสบความสำเร็จอย่างสูงในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัลบั้ม Dream ที่ออกเมื่อปี 1999 ที่ขายได้ในญี่ปุ่นกว่า 2 แสนชุด โดยตลอดระยะเวลากว่า 23 ปีในวงการเพลง Lisa Ono ออกอัลบั้มมาแล้วทั้งหมด 28 ชุด แม้ว่าส่วนใหญ่จะร้องเป็นภาษาโปรตุกีส แต่ก็มีหลายเพลงจากหลายอัลบั้มที่เธอร้องเป็นภาษาอังกฤษหรือแม้กระทั้ง ฝรั่งเศส (กับอัลบั้ม DANS MON ILE 2003) รวมถึงเมื่อปี 2010 ที่ Lisa Ono ได้ออกอัลบั้มรวมเพลงคลาสสิคจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย โดยเธอได้โชว์ความสามารถในการร้องเพลงภาษาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาษาจีน กับเพลง เหอ ยื่อ จวิน ไจ้ ไหล ของ เติ้ง ลี่ จวิน เพลงภาษาเกาหลี กับเพลง อารีรัง รวมถึง เพลงภาษาไทย กับ เพลงสายชล
ซึ่งนั่นทำให้ชื่อของ Lisa Ono เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมจากคอเพลงบอสซา โนวาทั่วโลกทั้งในละตินอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยของเรา ที่พิสูจน์ได้จากจำนวนผู้ชมคอนเสิร์ตที่มาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลามในทุก ครั้งที่ราชินีบอสซา โนวาคนนี้มาเปิดการแสดง
LISA ONO
Lisa Ono is one of the best Japanese interpreters of contemporary bossa nova. Oringally born in Brazil, she moved to Tokyo at a young age, and continued to visit Brazil throughout her life. This Latin influence infused her A singer, violonista (acoustic guitar player), and songwriter, she has had her albums released internationally. To date, she has recorded 12 albums. Her natural voice, rhythmic guitar playing, and her charming smile led her to a huge success and helped Bossa Nova to be popular in Japan. The album “Dream”, which was released in 1999, sold more than 2 hundred thousand copies in Japan, and since than she has established a determined position in the Japanese Bossa Nova community. Some of her most famous songs include Girl from Ipanema, Pretty World, and Bengawan Solo.
SPYRO GYRA
Spyro Gyra is a jazz fusion group which formed in 1974 in Buffalo, New York, United States. Since their formation, the band has released 25 albums and have been nominated for 12 Grammys. 2014 marks 40 years since the band's founding and also the 35th anniversary of their hit song, “Morning Dance.” The band’s lineup has seen many changes, with only saxophonist Jay Beckenstein and keyboardist Tom Schuman remaining from the original lineup. Beckenstein sums up their music style in this great quote. "My hope is that our music has the same effect on the audience that it does on me," says Beckenstein. "I’ve always felt that music, and particularly instrumental music has this non-literal quality that lets people travel to a place where there are no words. Whether it's touching their emotions or connecting them to something that reminds them of something much bigger than themselves, there's this beauty in music that's not connected to sentences. It¹s very transportive. I would hope that when people hear our music or come to see us, they're able to share that feeling with us. That's the truly glorious part of being a musician." Some of their most famous songs include, Morning Dance, Shaker Song, and Café Amore.
ไทย
