ประกาศความเป็นส่วนตัวสําหรับลูกค้า
(Privacy Notice – Customers)
บริษัท ไลค์ มี จํากัด
ข้อ 1. บททั่วไป
บริษัท ไลค์ มี จํากัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสําคัญและหน้าที่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยให้ความสําคัญในการเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ผู้ร่วมแสดงสินค้า ผู้ร่วมชมงาน ผู้ซื้อ บุคคลทั่วไป ตัวแทนขาย พันธมิตร หน่วยงานผู้สนับสนุนการจัดงาน ผู้ขาย ซัพพลายเออร์และผู้รับเหมา ไม่ว่าจะเป็นในนามของบุคคลธรรมดาเป็นการส่วนตัว หรือเป็นผู้แทนที่ดําเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ต่อไปนี้เรียกว่า “ลูกค้า”) และมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความปลอดภัย และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกําหนด บริษัทจึงได้จัดทําประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมใช้เปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้มีผลบังคับใช้กับใครบ้าง
ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ร่วมแสดงสินค้า ผู้ร่วมชมงาน ผู้ซื้อ บุคคลทั่วไป ตัวแทนขาย พันธมิตร หน่วยงานผู้สนับสนุนการจัดงาน ผู้ขาย ซัพพลายเออร์และผู้รับเหมา ไม่ว่าจะเป็นในนามของบุคคลธรรมดาเป็นการส่วนตัว หรือเป็นผู้แทนที่ดําเนินการในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรรมการที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงาน ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัท
ข้อ 2. ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง
2.1 “ข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data) หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจําตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขบัตรประกันสังคม เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจําตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ที่อยู่อีเมล (email address) ทะเบียนรถยนต์ IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสําหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทํางาน ที่อยู่ อีเมล (email address) ที่ใช้ในการทํางาน ที่อยู่อีเมล (email address) กลุ่มของบริษัท เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทําให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น
2.2 “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” (Sensitive data) หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติ อาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทํานองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกําหนด ซึ่งบริษัทต้องดําเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจําเป็นต้องดําเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต
ทั้งนี้ ต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
กรณีบริษัทได้รับสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของท่าน หรือบริษัทนําข้อมูลของท่านออกจากบัตรประจําตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการก่อนิติสัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทําธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) บริษัทไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน ยกเว้นในกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน ทั้งนี้บริษัทจะกําหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต
ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จําเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่บริษัทจะแจ้งให้ทราบในลําดับถัดไป ทั้งนี้ได้จําแนกประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท จัดเก็บไว้ ดังนี้
|
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล
|
รายละเอียด
|
|
|
เช่น คํานําหน้า ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น เพศ รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด อายุ สัญชาติ เลขที่ ประจําตัวประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ สถานภาพการสมรส ตําแหน่ง หน่วยงานที่สังกัด ความสนใจ เป็นต้น
|
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
|
เช่น เชื้อชาติ เป็นต้น
|
|
|
(ก) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ชื่อบัญชีไลน์ (LINE ID) ชื่อบัญชีเฟสบุ๊ก (Facebook ID) บัญชีกูเกิล (Google ID) บัญชีทวิตเตอร์ (Twitter ID) และบัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอื่น ๆ ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ใน กรณีฉุกเฉิน
(ข) ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท (Communication Data) เช่น ข้อมูลการบันทึกภาพ หรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัท
(ค) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การบันทึกภาพนิ่ง หรือวิดีโอ
(ง) ข้อมูลการศึกษาและการอบรม เช่น การศึกษา หลักสูตรที่เข้าอบรม
(จ) ข้อมูลบริษัทที่ทํางาน เช่น ชื่อสถานที่ทํางาน ที่อยู่ของที่ทํางาน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตําแหน่ง ชื่อผู้บังคับบัญชา
(ช) ข้อมูลนิสัย (Behavior Data) และข้อมูลความชอบส่วนบุคคล เช่น กิจกรรม อาหาร เครื่องดื่ม ของหวาน เป็นต้น
|
ข้อ 4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทดําเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่านผ่านกระบวนการ ดังนี้
4.1 ข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัทโดยตรง
เช่น ข้อมูลที่ปรากฏในการสมัครเข้าร่วมงาน ลงทะเบียนเข้างาน ข้อมูลที่ใช้สมัครลงทะเบียนสร้างบัญชีการใช้งาน (Account) หรือ โปรไฟล์ (Profile) กับบริษัทเพื่อใช้บริการของบริษัททั้งทางช่องทางออฟไลน์และ ช่องทางออนไลน์ ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับบริษัทไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบหนังสือหรือการสนทนารวมถึงภาพและเสียง ตลอดจนข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัทผ่านการทําแบบสํารวจ การให้ข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลที่ท่านเข้าใช้บริการ ณ ที่สํานักงานใหญ่หรือสํานักงานสาขา ศูนย์บริการลูกค้า หรือ บูธจัดแสดงสินค้าหรือบริการ เป็นต้น
4.2 ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บอัตโนมัติ
เมื่อท่านเข้าใช้บริการผ่านระบบของบริษัทหรือเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “คุกกี้” หรือ เทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะการทํางานเหมือนหรือคล้ายกัน
4.3 ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลภายนอก หรือข้อมูลสาธารณะที่เชื่อถือได้
กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แหล่งข้อมูลเชิงพาณิชย์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน แหล่งข้อมูล สื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการข้อมูล (Data Providers) หน่วยงานหรือบริษัทหรือสมาคมหรือสมาพันธ์ที่ เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน เป็นต้น
4.4 ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับบริษัท
ข้อมูลที่ท่านติดต่อกับบริษัท พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน คู่ค้าหรือพันธมิตรของบริษัท ผู้รับมอบอํานาจหรือผู้กระทําการแทน หรือบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมายจากบริษัทผ่านทาง ช่องทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การประชุม การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ VDO Call Service หรือโดยวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลในรูปข้อความ ตลอดจนภาพและเสียง
4.5 ข้อมูลที่ท่านร่วมทํากิจกรรมกับบริษัท
ในส่วนของกิจกรรมทางการตลาด การประกวด การจับฉลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรืองานแข่งขันต่างที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัท และ/หรือคู่ค้าหรือพันธมิตรที่ร่วมทํากิจกรรมกับบริษัท หรือบริษัทมอบหมาย หรืออนุญาตให้ทํากิจกรรมดังกล่าว
เมื่อท่านตกลงและยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่บริษัท ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทางธุรกิจหรือทางอื่นใด เช่น สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น ท่านรับรองและรับประกันความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และท่านรับรองและรับประกันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัว
ข้อ 5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดําเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล ดังต่อไปนี้
5.1 การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา เช่น สัญญาจ้างงาน หรือสัญญาอื่นใด หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอ/ใบสมัครของท่านก่อนเข้าทําสัญญา ตามแก่กรณี
5.2 การปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกําหนด เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายประกันสังคม กฎหมายเงินทดแทน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
5.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของท่าน
5.4 ความยินยอม (Consent) บริษัทจะขอความยินยอมจากท่าน กรณีที่มีกฎหมายกําหนดให้ขอความยินยอม หรือบริษัทไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากท่านได้
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
บริษัทดําเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
|
วัตถุประสงค์ในการดําเนินการ
|
รายละเอียด
|
ฐานในการประมวลผลข้อมูล
|
|
1. เพื่อการดําเนินการตามคําขอของท่านก่อนเข้าทํา สัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา
|
เพื่อการขายสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน หรือ ปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา ซึ่งรวมถึงการจัดการ account ของท่าน ข้อมูลการสมัครเข้า เป็นสมาชิก จัดส่ง การดําเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย และการคืนสินค้า และนําเนินการใด ๆ เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและ/หรือ บริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ
|
|
|
2. เพื่อการบริหารจัดการด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์
|
โฆษณาประชาสัมพันธ์ ท่าแคมเปญทางการตลาด วิเคราะห์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และติดต่อลูกค้าเพื่อให้คําแนะนําหรือนําเสนอผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดการ ด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งท่านเป็นพรีเซนเตอร์ หรือปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของบริษัท
|
|
|
3. เพื่อการบริหารจัดการด้านปฏิบัติการ (Operation) และการดูแลูกค้าหลังการขาย
|
ตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
|
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ความยินยอม
|
|
เพื่อนํามาพัฒนาช่องทางการให้บริการออนไลน์ของบริษัท เพื่อให้ท่านได้รับบริการจากบริษัทอย่างมี คุณภาพ รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด
|
|
|
เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานหรือถ่ายโอนข้อมูลในบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ที่บริษัทได้ ให้บริการต่อท่านผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และ/หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้มากกว่า 1 เครื่อง และเพื่อให้บริษัทสามารถดูแลตรวจสอบการเข้าใช้งานบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่าง ๆ ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้งาน โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเข้าใช้งานโดยบุคคลอื่นหรือการใช้งานโดยฉ้อฉล หรือในทางมิชอบ รวมถึงเพื่อปรับปรุงการให้บริการของบริษัทให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
|
- การปฏิบัติตามสัญญา
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
|
|
4. การบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
|
จัดหาระบบสารสนเทศเพื่อเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล เชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้า ตัวแทน
|
- การปฏิบัติตามกฎหมาย
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ความยินยอม
|
|
จัดท่าและให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประมวลผลข้อมูลของลูกค้าจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของบริษัท เช่นFacebook, Linkedin, Twitter, Youtube, Line เป็นต้น
|
- การปฏิบัติตามสัญญา
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ความยินยอม
|
|
5. เพื่อให้สามารถจัดการพัฒนา และดําเนินการ ใด ๆ เพื่อให้สามารถ ดำเนินธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
|
การบริหารจัดการสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชัน) การตรวจและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบําารุงรักษาและการใช้ระบบไอที
|
- การปฏิบัติตามกฎหมาย
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ความยินยอม
|
|
การวัดประสิทธิภาพของนโยบายทางการตลาดของบริษัท และเพื่อวัดประสิทธิผลของการโฆษณาของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ
|
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ความยินยอม
|
|
6. การบริหารจัดการงานเรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสียง
|
การตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต
|
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
- ความยินยอม
|
|
การฉ้อโกง หรือการกระทําที่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน
|
- การปฏิบัติตามสัญญา
- การปฏิบัติตามกฎหมาย
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
|
|
การดําเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดําเนินคดี หรือดําเนินมาตการใด ๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย การระงับข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทกับท่านอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท
|
- การปฏิบัติตามสัญญา
- การปฏิบัติตามกฎหมาย
- ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
|
ข้อ 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนําส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทและบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ดังนี้
6.1 ภายในบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนําส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทเฉพาะที่ เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่ จําเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยบุคคลหรือทีมงานเหล่านี้ของบริษัทจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความ จําเป็นและเหมาะสม
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น ๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้อง โดยกําหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลตาม บทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
- ผู้บริหาร หรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของท่านที่มีความรับผิดชอบในการบริหารหรือตัดสินใจเกี่ยวกับท่าน หรือเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับขั้นตอนทางด้านงานบุคคล
- ฝ่ายหรือทีมสนับสนุนต่าง ๆ เช่น กลุ่มงานเทคโนโลยีสารสนเทศ, ฝ่ายธุรการ, ฝ่ายบัญชี, ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์, ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น
6.2 ภายนอกบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจมีการเปิดเผยหรือนําส่งให้กับองค์กรภายนอก ดังนี้
6.2.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกํากับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกําหนด เช่น กรมสรรพากร สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมศุลกากร กรมทรัพย์สินทางปัญญา รัฐบาล ศาล กรมบังคับคดี หรือหน่วยงานอื่นใดที่อาศัยอานาจตามกฎหมาย
6.2.2 องค์กรหรือบุคคลภายนอก บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทําธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน และเพื่อที่จะได้ให้บริการหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของท่าน ดังมีรายนามดังต่อไปนี้
(1) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
(2) บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด
ข้อ 7. การตลาดและสิทธิพิเศษ (Marketing and Privilege)
บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ตามที่แจ้งให้ท่านทราบผ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และภายใต้ข้อกําหนดของกฎหมาย โดยบริษัทอาจจะใช้ชื่อ นามสกุล และข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ซึ่งรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ และรหัสไปรษณีย์ เพื่อ
7.1 ส่งข้อความแจ้งสิทธิประโยชน์ให้ท่านทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงการเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการแบบ Cross Selling และ/หรือ Upselling
7.2 โครงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Loyalty Program) หรือโครงการสิทธิพิเศษของลูกค้า (Privilege Program)
7.3 กิจกรรมส่งเสริมการขายและสื่อสารทางการตลาด รวมถึงการประกวด การจับรางวัล จับฉลากชิง โชค งานอีเว้นท์ และการแข่งขันต่าง ๆ ที่ท่านสนใจเข้าร่วมกิจกรรม
7.4 การบริจาคเพื่อกิจกรรมด้านการกุศล และ/หรือด้านอื่นๆ ที่ไม่แสวงหากําไร
การดําเนินการดังกล่าวข้างต้น บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคลากร และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อให้การดําเนินการใด ๆ นั้นบรรลุตามวัตถุประสงค์ข้างต้น
หากท่านไม่ประสงค์รับข้อมูลข่าวสารการตลาดและสิทธิพิเศษสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ท่านสามารถยกเลิกรับอีเมลเกี่ยวกับการตลาดได้โดยคลิกที่ลิงก์ยกเลิกการรับข้อมูล (Unsubscribe) ตามที่ปรากฏด้านล่างของอีเมลแต่ละฉบับ โดยบริษัทจะพยายามเร่งดําเนินการตามความประสงค์ของท่านโดยเร็วทีสุด
ข้อ 8. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
8.1 ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
8.2 หากท่านเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อํานาปกครองให้บริษัททราบ เพื่อให้บริษัทสามารถดําเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อํานาจปกครองด้วย
ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมด หรือบางส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยแจ้งให้บริษัททราบ
หากท่านเพิกถอนความยินยอมการที่ท่านยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลของท่านอันเนื่องมาจากเหตุผลหรือวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่สําหรับการดําเนินการด้านการตลาด บริษัทอาจไม่สามารถดําเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ หรือบริการ และ/หรือ บริหารจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าต่าง ๆ หรือ ความสัมพันธ์ และ/หรือ บัญชีของท่านที่มีกับบริษัทได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านเสียประโยชน์ในการใช้บริการของบริษัทในระดับเดียวกับกรณีที่ท่านให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบริษัท
ข้อ 9. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
9.1 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศในกรณีที่จําเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญาหรือเป็นการกระทําตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อใช้ใน การดําเนินการตามคําขอของท่านก่อนเข้าทําสัญญา หรือ เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเป็นการจําเป็นเพื่อดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ
9.2 บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือคลาวด์ (Cloud) ที่ ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สําเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสําเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และบริษัทจะกําหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
9.3 กรณีที่มีเหตุจําเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามที่กฎหมายกําหนด รวมถึงบริษัทจะกําหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จําเป็นเท่านั้น และดําเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอํานาจโดยมิชอบ
ข้อ 10. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
10.1 บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานตราบเท่าที่จําเป็น โดยคํานึงถึงความจําเป็นและวัตถุประสงค์ที่บริษัทจะต้องเก็บรวบรวม ใช้และประมวลผล ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามข้อกําหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับ
10.2 บริษัทจะยังดําเนินการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป แม้ว่าท่านจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัท เท่าที่จําเป็นตามข้อกําหนดของกฎหมายเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือทําการเก็บในรูปแบบที่ทําให้ระบุตัวบุคคลไม่ได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น “การทําข้อมูลนิรนาม” (Anonymous Data) หรือ “การทําข้อมูลแฝงที่ถูกทําให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data)
10.3 บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จําเป็นต้องเก็บเพื่อการดําเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัท โดยบริษัทอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กําหนดหากกฎหมายอนุญาต
10.4 เพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาและอายุความที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะดําเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความจําเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปแม้จะพ้นอายุความตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสําคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
10.5 บริษัทจะดําเนินการตรวจสอบเพื่อดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคล ทําให้ไม่สามารถระบุชื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เป็นการถาวร หรือโดยประการอื่นเพื่อจํากัดข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดเมื่อพ้นกําหนดระยะเวลาการเก็บรักษา หรือที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเกินความจําเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือเมื่อบริษัทต้องปฏิบัติตามคําขอของท่านให้บริษัททําการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อ 11. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กําหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอํานาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทได้มีการ ปรับปรุงนโยบาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะตามความจําเป็น และเหมาะสม นอกจากนี้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนด
ข้อ 12. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
12.1 ท่านมีสิทธิในการดาเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจํากัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
(2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัททําสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท ทั้งนี้บริษัทอาจปฏิเสธคําขอของท่านหากการเข้าถึง และขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคําสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
(3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทําข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทํางานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทําได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดาเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจําเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอํานาจตามกฎหมายกําหนด
(4) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทําขึ้นเพื่อการดําเนินงานที่จําเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดําเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดําเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสําคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่ละกรณี
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทําขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย
(5) สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความ จําเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องใน การเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
(6) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคําร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจําเป็นและต้องลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
(7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) สิทธิร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอํานาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทําในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัท เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัท โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 16. ของประกาศความเป็นส่วนตัวสําหรับลูกค้าฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบริษัท ได้ทําการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยื่นคําร้องขอใช้สิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัทได้รับคําร้องขอดังกล่าวแล้วจะดําเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด อนึ่ง บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธหรือไม่ดําเนินการตามคําร้องขอดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกําหนด
12.2 บริษัทมีสิทธิทั้งปวงและดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตอบรับเพื่อดําเนินการตามคําร้องขอหรือ ปฏิเสธคําขอของท่าน
การใช้สิทธิของท่านตามข้อ 12.1 อาจถูกจํากัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุ จําเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดําเนินการตามคําขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตาม กฎหมายหรือคําสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคําขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
ข้อ 13. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทให้ความสําคัญด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอันดับแรก เช่น การเข้ารหัสการจํากัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าบุคลากรของบริษัทและบุคคลภายนอกที่ดําเนินการในนามของบริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงหน้าที่ในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลและบริษัทใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่
เหมาะสมกับการประมวลผลข้อมูลบริษัทได้มีการทบทวน ปรับปรุงขั้นตอนและมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัทให้เป็นปัจจุบันสม่ําเสมอ เพื่อให้ได้ระดับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และให้การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล ความสมบูรณ์ ความพร้อมใช้งานและความคล่องตัวในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการปกป้อง การสูญหายและการเก็บรวบรวม การเข้าถึง การใช้ การดัดแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ บริษัทจะนํามาตรการต่าง ๆ ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทมาใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วน บุคคลทุกประเภท ไม่ว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะเป็นทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือรูปแบบเอกสารก็ตาม
ข้อ 14. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
ในการใช้บริการแอบพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของบริษัท อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดําเนินการ บริษัทพยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือ มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกําหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทขอให้ท่านศึกษาและปฏิบัติตามประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัท
ข้อ 15. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวสําหรับลูกค้า
บริษัทจะทําการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวสําหรับลูกค้าเป็นประจําเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวสําหรับลูกค้า บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวที่สําคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทขอแนะนําให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
ข้อ 16. ช่องทางการติดต่อ
หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียดของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
บริษัท ไลค์ มี จํากัด
126/5 อาคาร ไทยศรี ชั้น 2, ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
หมายเลขโทรศัพท์ 02-408-5410
อีเมล:
รายละเอียดของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
ชื่อ-สกุล กชพร ปฐมนุพงศ์
ที่อยู่ 134/341 Ideo Mobi Sathorn ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
หมายเลขโทรศัพท์ 082-417-7253
อีเมล: kochaporn.p@likemeasia.com
ข้อ 17. กฎหมายที่ใช้บังคับ
ท่านรับทราบและตกลงให้ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มี อํานาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น
ประกาศใช้ ณ วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2566
แก้ไขครั้งล่าสุด: 09 ธ.ค. 2567 16:04:48