Trending Now

สัปดาห์เก่าผ่านไป สัปดาห์ใหม่เราก็ยังไม่ได้ไปทำงานที่ออฟฟิศซะที! เห้อออออออออ! มาถึงตอนนี้ชาวออฟฟิศหลายๆ คนคงปรับตัวได้และมีความสุขกับการทำงานที่บ้านมากขึ้นแล้ว (Work From Home) แต่เราเชื่อว่าอาจจะมีบางคนที่ยังสับสน งุนงง ว่าจะจัดการตัวเองยังไงในสถานการณ์แบบนี้

เพราะทำงานแต่ไม่ได้งานตามเป้าเอาซะเลย นอกจากผลงานจะหายแล้ว ดีไม่ดียังกลายร่างเป็นยอดมนุษย์นักปั่นงาน 24 ชั่วโมงอีก เสียทั้งคุณภาพงานและเวลาพักผ่อนแบบนี้ต้องแย่แน่ๆ ถึงเวลาเซ็ทบาลานซ์ใหม่แล้วล่ะ เพื่อให้งานที่ทำนั้นมีประสิทธิภาพและเสร็จตามลิมิทเวลาที่ตั้งไว้ ควรทำอย่างไรบ้างไปดูกันเลย!


ตั้งกฎเหล็กในเวลางาน ห้ามฝ่าฝืน!

Photo by Brad Neathery on Unsplash

หลายๆ คนคงคุ้นหู คุ้นตากับวลีที่ว่า “Work form home not a vacation” กันอยู่แล้ว แต่ก็คงห้ามใจยากในเมื่อบ้านนั้นเปรียบเสมือนสวรรค์ของการพักผ่อน ฉะนั้นเราจำเป็นต้องตั้งกฎเหล็กในการทำงานขึ้นมา ขีดเส้นแบ่งระหว่างเวลางานกับเวลาส่วนตัวให้ชัดเจนแม้จะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งแนะนำว่าควรจัดเวลาเข้างาน ช่วงพักเบรก และเวลาเลิกงานให้เหมือนปกติ และอย่าลืมท่องไว้เสมอว่าเวลานี้เรากำลังทำงาน ห้ามเผลอเปิดเพลย์ลิสต์หนังที่เซฟไว้ขึ้นมาดู หรือหยิบอุปกรณ์มาปัดกวาดเช็ดถูบ้านเป็นอันขาด มิเช่นนั้นได้ลากงานยาวข้ามวันข้ามคืนแน่ ที่สำคัญเราและคนในบ้านต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎนั้นอย่างแน่วแน่ด้วย ห้ามไขว้เขวเด็ดขาด

ลิสต์รายการงานที่ต้องทำให้ชัดเจน

Photo by STIL on Unsplash

การเขียนแพลนเนอร์ หรือ To do list ในแต่ละวันนั้น เป็นเทคนิคที่ดีและเหมาะกับช่วงเวลานี้อย่างมาก เพราะช่วยให้เราจัดสรรเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเวลากับการทำงานเรื่อยเปื่อยจนกลายเป็นมนุษย์ค้างคาว ถ้าไม่เชื่อก็ลองหยิบกระดาษขึ้นมาสักหนึ่งแผ่น แล้วจดรายการงานที่ต้องทำทั้งหมดลงไปดูสิ จากนั้นลองจัดลำดับความสำคัญ งานไหนสำคัญมากก็เริ่มทำก่อน งานไหนที่ยากก็ให้เวลามากหน่อย ส่วนงานย่อยๆ ที่ไม่ค่อยสำคัญก็เอาไว้ทำช่วงก่อนเลิกงาน แค่นี้ก็คงพอจะมองภาพในหนึ่งวันออกแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง สิ่งไหนที่ทำเสร็จไปแล้วก็ขีดทิ้งไปซะ จะได้มีกำลังใจว่างานของเราจะต้องเสร็จภายในเวลาที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

จัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับการทำงาน

Photo by The Creative Exchange on Unsplash

กฎก็ตั้งแล้ว ลิสต์รายการงานก็จดแล้ว แต่ถ้าอุปกรณ์ไม่พร้อมรับรองว่างานไม่เดินแน่! อย่างงั้นจงรีบไปหยิบทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้งานมาวางไว้ใกล้ๆ ตัวแล้วจัดเตรียมพื้นที่ทำงานให้พร้อม ถ้าจะให้ดีก็หันหลังให้ทีวีหรือแยกมุมไปเลยจะได้มีสมาธิจดจ่อกับงานมากขึ้น และอย่าลืมเตรียมสัญญาณอินเทอร์เน็ตไว้ด้วยล่ะ เพราะว่าตอนนี้เราทุกคนคงหลีกเลี่ยงการทำงานออนไลน์ไม่ได้ หากนั่งทำงานเพลินๆ อยู่แต่อินเทอร์เน็ตดันสะดุดขึ้นมาก็คงฉุดอารมณ์ไม่น้อย กว่าจะอัพโหลดไฟล์งานได้แต่ละทีคงกินเวลาไปครึ่งค่อนวัน เผลอๆ ส่งงานไม่ทันใจเจ้านายก็อาจจะโดนดุเอาได้นะ ต้องระวังไว้เลย

Deadline เป็นเรื่องสำคัญ

ไม่ว่างานชิ้นไหนก็ต้องมี Deadline ทั้งนั้น อย่าเผลอเอาเวลางานไปทำอย่างอื่นซะหมด จนต้องมาเร่งปั่นมาราธอนชนิดที่ว่า Non stop working เอาเมื่อใกล้ถึงกำหนดส่งล่ะ แบบนี้นอกจากจะเบียดเบียนเวลาพักผ่อนแล้วผลงานยังไม่น่าปลื้มอีกด้วย ดังนั้นอีกสิ่งที่เป็นหัวใจหลักของการทำงานในแต่ละวัน คือ การกำหนดเวลาให้ชัดเจน ควรขีดเส้นตายเอาไว้เลยว่างานที่ทำนั้น จะต้องเสร็จก่อนเวลากี่โมง และถ้าส่งช้าจะเกิดอะไรขึ้นหรือมีบทลงโทษอย่างไร เพราะแน่นอนว่าในหนึ่งวันเราคงไม่ได้ทำแค่งานเดียว หรือไม่ก็คงมีคนที่รอนำผลงานของเราไปใช้ต่อ ฉะนั้นถ้างานเสร็จช้ามีหวังจะได้รับผลกระทบต่อกันเป็นทอดๆ เหมือนโดมิโน่ชัวร์!

อย่าลืมมอบรางวัลความสำเร็จให้ตัวเอง

การเปลี่ยนบ้านมาเป็นสถานที่ทำงานชั่วคราวนั้นก็คงจะอึดอัดใจไม่น้อย ไหนจะกฎต่างๆ ที่กำหนดเอาไว้เตือนตัวเอง แถมยังต้องรีบทำงานให้ทันเวลาอีก เป็นแบบนี้หลายวันเข้าคงเฉาน่าดู แต่ถ้ามีรางวัลพิเศษสักชิ้นรอเราอยู่ที่ปลายทางของตารางงานในแต่ละวันล่ะ แบบนี้ค่อยมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาหน่อยนะว่าไหม ฉะนั้นลองตั้งรางวัลสักหนึ่งอย่างไว้ตอบแทนตัวเองเมื่อทำงานเสร็จดูสิ ไม่ว่าจะเป็นการได้นอนดูหนังที่ชอบบนโซฟาตัวโปรด ได้อบขนมเค้กสักชิ้นทานกับคนที่รัก หรือแม้แต่การออกไปรดน้ำต้นไม้ที่ระเบียงห้องพร้อมนั่งเล่นกีต้าร์สักเพลง รางวัลเหล่านี้นอกจากดึงดูดใจและเป็นแรงพลักดันให้ทำงานสำเร็จตามเป้าหมายและเวลาที่ตั้งไว้ ยังช่วยเพิ่มระดับความสุขให้กับเราและทุกคนที่บ้านในสถานการณ์แบบนี้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เป็นยังไงกันบ้างกับเทคนิคที่นำเสนอไป อ่านจบแล้วก็ลองนำไปปรับใช้กันได้นะทุกคน จะได้มีความสุขกับการทำงานที่บ้านมากขึ้น และไม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำจนคุณยามเรียกพี่ ไม่แน่นะอาจจะทำผลงานได้ดีขึ้นจนเข้าตาเจ้านาย มีโอกาสได้รับโบนัสก้อนโตหลังผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปก็ได้ใครจะรู้! เอาเป็นว่าสู้ๆ นะทุกคน


ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

  • Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
  • Instagram: @Zipevent
  • Website: www.zipeventapp.com
  • Twitter: @Zipevent
  • Facebook: @Zipevent

Comments

comments