Trending Now

ในช่วงที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงขึ้นทุกวันนั้น เราชาวออฟฟิศจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ด้วยการ Work from home ซึ่งประโยคนี้ฟังๆ ดูแล้วมันคงเป็นอะไรที่หลายคนใฝ่ฝันเพราะไม่ต้องรีบตื่นเช้าฝ่ารถติดไปทำงาน ต่อคิวรถตู้ เบียดๆ กันบน BTS ไหนจะต้องบู๊กับพี่วินมอเตอร์ไซค์ ได้อยู่กับตัวเองนั่งทำงานชิลๆ ชิคๆ อยู่บ้าน 

แต่.. ใดๆ ก็คือเฉาเด้อ เพราะว่าการที่เราต้องนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน ก็เท่ากับว่าต้องนั่งทำงานคนเดียว ไม่ได้เจอหน้าหรือหันไปเม้าท์มอยกับเพื่อน อดไปกินข้าวกับเดอะแก๊ง มองไปทางไหนก็เจอแต่ห้องสี่เหลี่ยมและงานที่กองอยู่ตรงหน้า ซึ่งคงจะทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ ที่ตัวเราก็ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน อย่างไรก็ตามทุกความเฉามีทางออกเสมอ เพราะวันนี้เรามีวิธีรับมือกับการนั่งทำงานอยู่บ้านแบบไม่เหงามาฝากกันจ้า!


ปรับมุมทำงานให้น่ามอง

หลายๆ คนเมื่ออยู่ออฟฟิศก็จะมีวิธีจัดการโต๊ะทำงานของตัวเองให้ดูน่าสนใจหรือให้ผ่อนคลายที่สุด เพราะเราต้องใช้เวลาอยู่กับงานทั้งวัน แต่กลับกันพอนั่งทำงานที่บ้านมีเพียงโต๊ะตัวเดียวพร้อมคอม กับห้องสี่เหลี่ยมมุมเดิม ดังนั้นเรามาเริ่มจากการเลือกมุมทำงานของห้องกันดีกว่าว่ามุมไหนที่ชอบมากที่สุด สบายตามากที่สุด บนโต๊ะทำงานของเราจากที่มีแค่คอมพิวเตอร์กับแก้วน้ำประจำตัว อาจจะเพิ่มความสดชื่นจากสีสันของธรรมชาติกันด้วยแจกันดอกไม้ บรรดาสีสันและกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้จะช่วยผ่อนคลายความเครียดให้เราได้เป็นอย่างดี 

ใช้เวลาของการเดินทาง นำมาใช้อย่างอื่นแทน

เหตุผลข้อใหญ่ที่ทำให้การ WFH มีประโยชน์มากคือ “ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง” แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำงานให้เร็วกว่าเดิม ลองปรับเปลี่ยนในช่วงเวลาก่อนเริ่มงานหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น อาจจะออกกำลังกายตอนเช้าก่อนเริ่มงาน หรือ ปัดกวาดเช็ดถูห้อง ก็ถือว่าไม่เลวเลยที่จะใช้เวลาตรงนี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด

Chat & Video Call แก้เหงา

เหงาๆ เฉาๆ หันไปปรึกษาใครก็ไม่ได้ คิดงานไม่ออกบอกใครดี ตัวช่วยนี้แหละดีที่สุดของการ Work from home เพราะว่าแต่ละบริษัทก็จะมีการนัดประชุมผ่านทางระบบวิดีโอคอลกันอยู่แล้วเพื่อให้ทุกคนได้เห็นหน้ากัน Update งาน ข่าวสารต่างๆ ถือว่าก็เป็นการกระชับความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานไปอีกขั้นด้วยนะ

หาเวลาพักเบรก

แน่นอนว่าพอเราต้องนั่งทำงานอยู่ที่บ้าน เราจะโฟกัสแต่กับงานเพื่อเร่งผลิตผลงานเพราะห่วงว่า “พอทำงานอยู่บ้านแล้วไม่ได้งาน” ทำให้กดดันอยู่กับสิ่งนั้นๆ ให้ลองแบ่งช่วงเวลาพักกันสักหน่อยเพราะเวลาเราอยู่ออฟฟิศเรายังมีเวลาพักเบรกให้ตัวเองเลย เอาแบบนี้สิ! เมื่อรู้สึกว่าหนักเกินไปลองพักจากการทำงาน มาเปิดเพลงฟังสบายๆ ให้สมองโล่ง ลุกไปหาขนมกรุบๆ มากินให้มันเพิ่มพลังสักหน่อยก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีเลยล่ะ หรือว่าบ้านใครมีน้องหมาน้องแมวลองหันไปเล่นกับน้องๆ ดูบ้างก็จะช่วยผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยนะ

จุดพลังในตัวด้วยการใส่ชุดทำงาน

ถึงต่อให้เรานั่งทำงานอยู่ที่บ้าน ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องปล่อยตัวเองให้โทรมนะ เริ่มต้นวันใหม่ของการทำงานอยู่บ้านเราก็ต้องปลุกพลังในการทำงานกันหน่อย เริ่มจากการ อาบน้ำ แต่งตัว ไม่ต้องถึงกับแต่งเต็มใส่สูทกระโปรง หรือถึงขั้นผูกไทด์ แค่เป็นเสื้อผ้าที่สีสันสดใส แต่งหน้าเบาๆ ไว้สำหรับพร้อม Video Call กับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานก็โอเคแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายและสมองเรารับรู้ว่าถึงเวลาต้องทำงาน ไม่ใช่วันพักผ่อนแต่อย่างใด

เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ตัวเองเฉาเลย มานำทริคเล็กๆ น้อยๆ  เพียงแค่ 5 ข้อนี้ไปลองใช้กันดูดีกว่า และหวังว่าทั้งหมดนี้จะเป็นตัวช่วยดีๆ ที่ทำให้ทุกคนมีพลังในการทำงาน ปลุก Energy ในวันที่ต้อง Work from home  หรือถ้าทั้ง 5 ข้อนี้ยังไม่จุใจทุกคน ก็ลองเข้ามาอ่านบทความสนุกๆ ที่ซิปอีเว้นท์กันได้นะเออ!


ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย 

  • Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ) หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย @Zipevent
  • Instagram: @Zipevent
  • Website: www.zipeventapp.com
  • Twitter: @Zipevent
  • Facebook: @Zipevent

Comments

comments