Trending Now

เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงมีความเครียดที่สะสมเป็นเวลายาวนาน แล้วเคยรู้ไหมว่า…ความเครียดนั้นมันเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิด “ อาการสมองล้า ” หรือเรียกว่า “ Tired All The Time Syndrome (TATT) ” อาการที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งต่อร่างกายและสมองทั้งหมด ดังนั้นก่อนที่สมองของเราจะล้าจนถึงขั้นเป็นโรคความจำเสื่อมในอนาคต เราควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวันที่ทำร้ายสมองทันที!

เพราะปัจจุบันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะอายุน้อยหรือมาก แสดงให้เห็นว่าภาวะสมองเสื่อมสามารถเกิดได้กับทุกคน ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าความจำของเราลดลงไปมากแค่ไหน แต่เราสามารถปกป้องสมองของเราและความจำของเราให้ดีได้ด้วยการทำวิธีต่างๆ เหล่านี้ค่ะ

เริ่มต้นด้วยการกินที่ดี

เริ่มต้นเพิ่มหน่วยความจำด้วยการกินที่ดี กินอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง และกินวิตามินบางตัว เช่น วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินอี เพราะจะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองอยู่ในภาวะที่ดีที่สุด โดยเฉพาะมื้อเช้าเราต้องห้ามพลาดในการกิน เพราะมื้อเช้าคือมื้อที่สำคัญที่สุดในการไปหล่อเลี้ยงสมอง ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้ตื่นตัว เราควรดูแลสุขภาพสมองของเราจากภายใน ถึงแม้ว่าจะไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวของอาหารที่จะช่วยการป้องกันโรคสมองล้า หรือโรคเกี่ยวกับสมองอื่นๆ ก็ตาม แต่การที่เราได้เริ่มกินอย่างตรงจุด ก็จะช่วยให้รักษาระดับความจำเมื่อเราแก่ตัวไปได้

อยากให้ทุกคนจำไว้ว่า…อะไรมันก็ไม่แน่นอน สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เปลี่ยนความคิดใหม่เรื่องการกิน และหันมาเห็นค่าของสมองเรามากขึ้น หากเราได้ตระหนักแล้ว ยังไม่สายเกินไปที่เราจะสร้างความทรงจำเก่าให้กลับมาดีอีกครั้งค่ะ

ออกกำลังกายเพื่อสมอง

วิธีต่อไปที่อยากให้ทุกคนได้เริ่มลองทำหลังจากนี้ ทำให้เป็นกิจวัตรประจําวันได้เลยก็ยิ่งดีค่ะเพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นแล้ว สมองของเรามีแนวโน้มที่จะหดตัวลง การทำงานบางอย่างก็อาจจะบกพร่องไป ความทรงจำของเราก็ยากที่จะเข้าถึงมากขึ้น และยากที่จะเก็บความทรงจำใหม่เช่นกัน

แต่ถ้าเราเริ่มหันมาออกกำลังกายเป็นประจำ เราจะสามารถป้องกันสมองที่ล้าไม่ให้สูญเสียไปมากกว่าเดิมได้ และทำให้สุขภาพส่วนอื่นดีขึ้นอีกด้วย จะออกแบบเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ เช่น การทำโยคะ หรือ การเต้นแอโรบิคแบบฝึกหัด หรืออื่นๆ ก็ถือว่าร่างกายเราได้ขยับบ้างแล้วล่ะค่ะ

สมาธิเพิ่มความทรงจำ

และสิ่งต่อไปหลังจากที่เราดูแลด้วยการกินและออกกำลังกายแล้ว ยังมีวิธีเพิ่มความจำอีกวิธีง่ายๆ และผ่อนคลายมากที่สุด นั่นก็คือการนั่งสมาธิ เพราะจะทำให้จิตใจเรามีความสงบ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็คือการทำให้สมองเราได้หยุดพัก และทำงานน้อยลง รวมทั้งได้คิดทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น

วิธีนี้ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ง่าย ที่ไหนก็ได้ ไม่ยุ่งยากด้วยค่ะ คิดซะว่าเราได้ทำให้สมองได้หยุดพักสักครู่ หลังจากไม่ได้พักมาเลยในตลอดหลายปี แค่นี้ก็จะช่วยเพิ่มความทรงจำขึ้นมาได้เรื่อยๆ แล้วค่ะ

เพิ่มความจำพัฒนาสมองผสมผสานด้วยการเล่นเกมแบบฝึกหัด

สิ่งสุดท้ายขาดไม่ได้ที่จะต้องทำ เพราะเป็นสิ่งที่เพิ่มความทรงจำอย่างแท้จริง เมื่อสมองได้ใช้งานพัฒนาเพิ่มเติมในการเสริมทักษะด้วยการเล่นเกม จะช่วยเปิดจินตนาการของเราและส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการคิดวิเคราะห์ในระยะยาวได้ เพราะคนเราถ้าสมองอยู่กับที่ ไม่ได้รับอะไรใหม่ๆ คิดแต่สิ่งเดิมๆ ก็จะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้ากับสิ่งนั้นไปเรื่อยๆ และนอกจากนั้นเรายังไม่รู้สึกสนุกกับสิ่งที่กำลังทำอีกด้วย

เพราะฉะนั้นเราต้องหาวิธีพัฒนาสมอง ด้วยการเล่นเกมที่เสริมทักษะ เพื่อจะช่วยให้พัฒนาตัวเองและให้สมองเราเองได้เพิ่มความจำขึ้นมาอัตโนมัติ ไม่เพียงพอการที่เราเล่นเกมนั้น เรายังจะได้ทักษะใหม่ๆ หรือการคิดนอกกรอบเพิ่มมาอีกด้วยค่ะ ซึ่งเป็นผลดีมากที่เราควรเล่นเกมที่เพิ่มทักษะให้กับเรา แค่นี้สมองของเราก็จะชะลอการเสื่อมน้อยลงแล้ว


ยังไงเราก็อยากฝากให้เพื่อนๆ ไปลองคิดกันดูนะคะ ว่าสมองของเรายังไม่แก่ตัวมาก เราใช้งานมันเยอะ เราจะดูแลด้วยวิธีไหนเพื่อไม่ให้ทุกอย่างแย่ลงไปกว่าเดิม ขึ้นอยู่กับตัวของเราแล้วนะคะ ไม่ว่าจะวิธีไหนที่ซิปเสนอไป ซิปว่า…ถ้าทุกคนได้ทำบ้างก็จะช่วยให้สมองเราดีขึ้นอย่างแน่นอน

และถ้าใครที่ต้องการพัฒนาสมองของเรา อยากให้ลองมาเปิดใจกับงาน HEAD HEART HAND’ / ‘หัวไว ใจสู้ รู้ทำ’  กันดูนะคะ เพราะงานนี้จะทำให้สมองเราได้พัก และได้ฟังเรื่องที่เกี่ยวกับยุคสมัยของไอเดียดีๆ เกี่ยวกับงานออกแบบนับล้านชิ้น ที่เราสามารถลงมือทำและค้นหาความเป็นตัวเองได้ บอกเลยว่างานนี้เรียนฟรี! และเปิดรับสมัครเพียงจำนวน 50 ที่นั่ง เท่านั้น!

สามารถสมัครได้ทางช่องทางนี้เลย
https://www.zipeventapp.com/e/CMDW19-Talks-HEAD-HEART-HAND


ฝากติดตามข่าวสารงานอีเว้นท์กับ Zipevent
ในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ตามนี้เลย
Line: @Zipevent (อย่าลืมเติม @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)
หรือจิ้มไปที่ลิงก์นี้ได้เลย 
@Zipevent
Instagram: 
@Zipevent
Website: 
www.zipeventapp.com
Twitter: 
@Zipevent
Facebook: 
@Zipevent


Comments

comments

Author